“หมออรพรรณ์” ยื่นฟ้องศาลปกครอง ปม “กรรมการแพทยสภา” ออกกฎ “สเต็มเซลล์” เกินอำนาจ
“หมออรพรรณ์” ยื่นฟ้องศาลปกครอง ปม “กรรมการแพทยสภา” ออกกฎ “สเต็มเซลล์” เกินอำนาจ พร้อมขอเพิกถอนประกาศ 3 ฉบับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ธ.ค.67) แพทย์หญิงอรพรรณ์ เมธาดิลกกุล อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมายการแพทย์ กรมการแพทย์ ในฐานะ หัวหน้ากลุ่มแพทย์ ชื่อกลุ่มเพื่อแพทย์ลงสมัครกรรมการแพทยสภาเพื่อแก้ไขกฎที่บีบคั้นแพทย์ ซึ่งออกโดยกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบัน ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง หลังรับเรื่องร้องทุกข์ของแพทย์จากการกระทำของกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบัน โดยมีแพทยสภาและกรรมการแพทยสภาชุดปัจจุบัน รวม 5 ราย ถูกฟ้องคดี
โดยสรุปฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องได้กระทำการออกกฎเกณฑ์และแถลงข่าว ในประเด็นเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์เกินอำนาจที่กฎหมายกำหนด ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของแพทย์และวงการแพทย์ในประเทศไทย ทำให้ผู้ป่วยที่รักษาด้วยสเต็มเซลล์เดือดร้อน
แพทย์หญิงอรพรรณ์ ได้ขยายความเพิ่มเติ่มว่า แพทยสภา คณะกรรมการแพทยสภา และกรรมการบางส่วน ได้ออกกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สเต็มเซลล์ โดยไม่ได้มีอำนาจ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 รวมถึงได้แถลงข่าวหรือกล่าวในลักษณะที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า แพทย์ของไทยที่ให้การรักษาด้วยสเต็มเซลล์เป็นการหลอกลวง ส่งผลต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นต่อแพทย์
และทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์หรือยาชีววัตถุต้องเดือดร้อน เนื่องจากแพทยสภาได้กล่าวในลักษณะว่าการรักษาผู้ป่วยด้วยสเต็มเซลล์ กรณีโรคอื่นนอกจากโรคทางเลือดและดวงตาที่แพทยสภาอ้างว่ารับรองแล้ว ถือเป็นความผิด ทำให้แพทย์ไม่กล้าที่จะรักษาผู้ป่วยที่ใช้สเต็มเซลล์ต่อไปได้
แพทย์หญิงอรพรรณ์ อ้างถึงการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 31 ต.ค.67 ที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สเต็มเซลล์ ในลักษณะที่อ้างว่า ประเทศไทยติดอันดับหลอกลวงผู้ป่วยด้วยการใช้สเต็มเซลล์เถื่อน และระบุว่าการรักษาด้วยสเต็มเซลล์ในโรคที่ไม่ได้รับรองจากแพทยสภา อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อแพทย์ที่ปฏิบัติตามาตรฐานวิชาชีพในการรักษาผู้ป่วย
“การแถลงข่าวและการออกกฎดังกล่าว ทำให้ภาพลักษณ์ของแพทย์ที่ใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาผู้ป่วยถูกมองในแง่ลบ และเป็นการออกกฎในลักษณะขัดขวางการเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อการรักษาผู้ป่วยด้วยสเต็มเซลล์ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับประโยชน์จากการรักษา เช่น ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับและมะเร็งต่อมลูกหมาก ที่ได้รับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์มายาวนานกว่า 15 ปี ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคตอันเกี่ยวข้องถึงชีวิตและสุขภาพได้” แพทย์หญิงอรพรรณ์ ระบุ
ทั้งนี้ขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนกฎเกณฑ์และประกาศที่ออก โดยแพทยสภา จำนวน 3 ฉบับ รวมถึงสั่งให้กรรมการแพทยสภาแก้ไขการแถลงข่าว ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อแพทย์และวงการแพทย์ และต่อผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาชีววัตถุสเต็มเซลล์
ซึ่งการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีเกินขอบเขตอำนาจและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยให้กฎและประกาศดังกล่าว ไม่ใช้บังคับกับการรักษาด้วยสเต็มเซลล์อันจะทำให้การรักษาดังกล่าวดำเนินการต่อไป และให้เยียวยาโดยต้องขอเพิกถอนข้อความเรื่องการใช้สเต็มเซลล์ของแพทย์ไทยนั้นเป็นการลวงโลก
ขอบคุณภาพ ยูทูบ คุยกับหมออรพรรณ์