GPSC โดนลูกหลง.!
ทำเอาวงแตกกระเจิง..เมื่อบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP แจ้งมติบอร์ดวันที่ 19 ธ.ค. 2567 ให้เพิ่มเงินลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด
ทำเอาวงแตกกระเจิง..เมื่อบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP แจ้งมติบอร์ดวันที่ 19 ธ.ค. 2567 ให้เพิ่มเงินลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) จำนวน 63,028 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยระหว่างก่อสร้างประมาณ 17,922 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าโครงการให้แล้วเสร็จ พร้อมขยับไทม์ไลน์เปิดดำเนินงานออกไปเป็นปี 2571..!!
ซึ่งนอกจากนักลงทุนจะพากันหนีตายจากหุ้น TOP จนส่งผลให้ในวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. 2567 ราคาทรุดหนักกว่า 22% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 3,231.01 ล้านบาท…ส่วนวานนี้ (23 ธ.ค. 2567) ก็ยังไม่ฟื้น ทรุดลงไปอีก 6.42% มูลค่าการซื้อขาย 2,758.03 ล้านบาท
คนที่พลอยฟ้าพลอยฝน…โดนลูกหลงไปเต็ม ๆ คงหนีไม่พ้นพี่น้องท้องเดียวกันอย่างบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ซึ่งเป็นเรือธงธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่มปตท. ในฐานะผู้ลงทุนหน่วยผลิตไฟฟ้า (Energy Recovery Unit : ERU) ซึ่งมีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า 250 เมกะวัตต์ (MW) และไอน้ำ 175 ตันต่อชั่วโมง เพื่อป้อนให้กับกระบวนการผลิตของโครงการ CFP และใช้ผลิตภัณฑ์พลอยได้ของโครงการ CFP เป็นเชื้อเพลิงหลัก แทนการลงทุนจัดสร้างเอง…ก็เจอแรงขายกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ จนเมื่อวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. 2567 ราคาทรุดไป 6.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 695.38 ล้านบาท
ดูไม่จืดด้วยกันทั้งคู่..!!
ทำให้ GPSC นั่งไม่ติด ต้องออกมานั่งยันนอนยันว่า “การเพิ่มเงินลงทุนในโครงการ CFP ของไทยออยล์ ซึ่งรวมถึงโครงการ ERU ไม่มีผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนของบริษัทฯ ภายใต้สัญญาต่าง ๆ ของโครงการ ERU แต่อย่างใด”
ทราบแล้วเปลี่ยน…
โอเค…ระยะสั้นคงไม่กระทบอะไร..?? ไม่มีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 ยังมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่กว่า 22,717.41 ล้านบาท…
งั้นถามว่าเสียหายมั้ย…ไม่ถึงขั้นเสียหาย แต่จะเสียโอกาสมากกว่า..!! เพราะการที่โครงการ ERU ถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จากแรกเริ่มเดิมทีคาดจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3/2566 ก็ขยับมาเป็นต้นปี 2568 แต่ล่าสุดถูกขยับไปอีก 4 ปี เป็นช่วงไตรมาส 1/2572 แทน จะทำให้ GPSC สูญเสียโอกาสของรายได้จากการขายไฟฟ้าไปโดยปริยาย
เพราะตราบใดที่โครงการ CFP ไม่ได้เดินเครื่อง นั่นหมายถึงโรงไฟฟ้าก็ขายไฟไม่ได้เช่นกัน…
ทำให้นักวิเคราะห์มีโอกาสที่จะปรับประมาณการรายได้ของ GPSC ลงนะเนี่ย…โบรกเกอร์ไหนที่ adjust รายได้จากโครงการ ERU เข้าไป ก็คงต้องถอดออก อย่างบล.เคจีไอ มองว่าความล่าช้าของโครงการ ERU ส่งผลเชิงลบต่อกำไรและราคาเป้าหมายของ GPSC เนื่องจากการรับรู้รายได้ที่ล่าช้าและความเสี่ยงที่เพิ่ม แม้ว่ากำลังการผลิต ERU 250 เมกะวัตต์ จะคิดเป็นเพียง 2% ของกำลังการผลิตรวม 12.7 กิกะวัตต์ ณ ไตรมาส 3/2567
แต่ด้วยอัตรากำไรที่สูง ทำให้ความล่าช้ามีนัยสำคัญ (คิดเป็น 3-4 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์) และยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการบรรลุผลตอบแทนของโครงการและแผนการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ที่ปรับปรุงใหม่ ทำให้นักลงทุนบางรายตัดโครงการนี้ออกจากการประเมินมูลค่า เนื่องจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ต้องล่าช้า 4 ปี โดยประมาณการว่า ERU จะสร้างรายได้ 500-800 ล้านบาทต่อปี หรือ 8-13% ของกำไรหลักของ GPSC
ทั้งนี้ การเลื่อนจากแผนในปี 2568 เป็นไตรมาส 1/2572 นำไปสู่การปรับลดประมาณการกำไร 9-12% ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป
ก็กระทบไม่มาก…แต่ก็ไม่น้อยนะ
เอาเป็นว่า ถ้าใครยังรักใคร่หุ้น GPSC อยากจะซื้อ…ก็ซื้อ ส่วนใครคิดว่าพอก่อนแค่นี้ ใคร่อยากจะขาย…ก็ขาย
เลือกที่สบายใจละกัน…
…อิ อิ อิ…