อย่าหลอกกัน!
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ดีดตัวขึ้นแรง ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของนักลงทุนอย่างแท้ทรู เพราะอย่างน้อยก็มีเรื่องดี ๆ เข้ามาจรรโลงจิตใจในระยะสั้น
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ดีดตัวขึ้นแรง ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของนักลงทุนอย่างแท้ทรู เพราะอย่างน้อยก็มีเรื่องดี ๆ เข้ามาจรรโลงจิตใจในระยะสั้น และสามารถแอบหวังถึงการขึ้นไปสร้างแนวรับที่ระดับ 1,400 จุดอีกด้วยแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมดีใจเป็นธรรมดา เพราะความกังวลหลายอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เริ่มจาง และถูกแทนที่ด้วยข่าวดีที่เข้ามาประปรายไงล่ะคะ
ที่สำคัญคือ แรงขับเคลื่อนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยขึ้นเที่ยวนี้มาจากอิทธิพลต่างประเทศ จึงต้องประเมินกันต่อไปว่า เมื่อนักลงทุนคลายกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ย่อมคาดหวังถึงภาพเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว และยังหวังลึก ๆ ถึงเรื่องลดดอกเบี้ยเป็นโบนัสแบบนี้..เดี๊ยนอาจหวังสูงเกินไปก็ได้? แต่อย่างน้อยก็ขอให้พอมีหวังไว้นิดหน่อยก็ยังดี เพราะต้องทนอึดอัดใจกับบรรยากาศการลงทุนที่มัวหมองเป็นเวลานานแล้วน่ะซี
ฉะนั้นการที่ดัชนีพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,386.91 จุด บวกไป 21.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.36 หมื่นล้านบาท พร้อมกับยืนเหนือระดับ 1,380 จุดอีกครั้ง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นสุด ๆ เพราะไม่ได้เห็นตลาดหุ้นพุ่งแรงแบบนี้มานานแล้ว แต่เมื่อเหลือบดูมูลค่าการซื้อขายต่ำกว่าระดับ 5 หมื่นล้านบาท เดี๊ยนชักไม่แน่ใจว่า เที่ยวนี้จะยืนระยะได้นานขนาดไหน? เพราะมันเคยเห็นเหตุการณ์ “ท่าดีทีเหลว” มาหลายครั้งนะจ๊ะ
ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็รู้สึกดีใจกว่ารอบก่อน ๆ เพราะแรงซื้อกระจายไปยังหุ้นหลายตัว (วานนี้ต่างชาติซื้อหนักกว่า 2.20 พันล้าน ส่วนกองทุนก็ซื้อไป 5 ร้อยล้าน) ซึ่งทำให้การขึ้นของตลาดหุ้นไม่ผูกติดกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเหมือนเมื่อก่อน และตรงจุดนี้เองที่ทำให้บรรยากาศลงทุนดูดีขึ้น เดี๊ยนถึงมองว่า การทะยานขึ้นของหุ้นหลายตัวมีนัยสำคัญ และการกลับขึ้นมายืนเหนือแนวรับสุดท้ายอีกครั้ง ก็เหมือนเป็นการย้ำให้รู้ว่า หากไม่มีอะไรแย่ลงกว่าที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยน่าจะได้ไปต่อนะคะ
โดยเฉพาะในรายของ AOT เปิดกระโดดขึ้นมาปิดที่ระดับ 59.75 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 พันล้านบาท คือตัวแปรสำคัญที่เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาอีกครั้ง เพราะการขึ้นเที่ยวนี้เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้รู้ว่า นักลงทุนสถาบันกลับมาทำงานเต็มตัว แถมเที่ยวนี้มีเรื่องผลงานเป็นแบ็กอัพ เดี๊ยนเลยเชื่อว่า เที่ยวนี้น่าจะไปต่อได้อีกพะย่ะค่ะ
ประเด็นดังกล่าวเชื่อมโยงไปถึง ADVANC ก็พุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 284 บาท บวกไป 10 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.52 พันล้านบาท โดยกองทุนต่าง ๆ ยกให้เป็นหุ้นตัวท็อปที่ต้องมีติดพอร์ตแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมคาดหวังการขึ้นเที่ยวนี้มีสิทธิ์ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 300 บาทอีกครั้ง..ส่วนจะผ่านไปได้ หรือผ่านไปไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะตอนนี้มีแก๊ปให้เล่นสั้นไปพลาง ๆ เจ้าค่ะ
เช่นเดียวกับในรายของ CPALL ที่มีเรื่องฉาวออกมาเป็นระลอก ๆ แต่วานนี้กลับมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องตลอดทั้งวัน จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 55.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.54 พันล้านบาท เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้ทุกคนรู้ว่า เมื่อถึงจังหวะที่ต้องไล่หุ้นแบบสุดซอย ทุกคนก็หลงลืมเรื่องธรรมาภิบาลจนหมดสิ้นแบบนี้..อีฉันควรจะ “ดีใจ” หรือ “เสียใจ” ดีล่ะคะ
ในเมื่อมีความสงสัยเกิดขึ้น “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น BDMS เป็นรายถัดมา เพราะการดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 24.30 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.12 พันล้านบาท มันทำให้โมเมนตัมของหุ้นดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจริง ๆ เพราะเป็นการเปลี่ยนจาก “ขาลง” กลายเป็น “ฟื้นตัว” และในมุมของสัญญาณเทคนิคถือว่า จังหวะนี้ต้องไหลตามน้ำนะตัวเอง
เช่นเดียวกับในรายของ KCE ที่มีอาการเมาหมัดเป็นเวลานาน วานนี้กลับฟื้นตัวอย่างร้อนแรง ก่อนจะยืนปิดที่ 25 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 6.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 443 ล้านบาท พร้อมกับสลัดอาการเดี้ยงเป็นปลิดทิ้งแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ท้าทายนักเล่นพอสมควรว่า วันนี้พวกสถาบันจะลุยต่อไหม? เพราะหุ้นตัวนี้ยังมีเรื่องกำไรพลาดเป้าเป็นชนักติดหลังอยู่นะนายจ๋า!
โมนิก้า: และทีมงาน