รวมไทยสร้างชาติ ยื่นร่างกฎหมายปลดล็อก “โซลาร์รูฟท็อป” เข้าสภาฯ ลดภาระค่าไฟ-สร้างอาชีพใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ธ.ค.67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำ สส. เปิดเผยว่า วันนี้ รทสช. ได้ยื่นร่างกฎหมายที่ไม่เคยมีในประเทศไทยเข้าสภาผู้แทนราษฎร คือ ร่างกฎหมายสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือร่างกฎหมายปลดล็อก “โซลาร์รูฟท็อป”

โดยนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าว จะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากภาระค่าไฟฟ้าแพง เนื่องจากที่ผ่านมา ทุก 4 เดือนจะต้องปรับราคาค่าไฟฟ้า เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าหลักของประเทศต้องใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซ ซึ่งราคาอ้างอิงตามราคาตลาดโลก

ทั้งนี้ พบว่าการจะช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากค่าไฟที่แพง ต้องสนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์รูฟท็อป แต่ปัจจุบันการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย ยังมีความยุ่งยาก ซับซ้อน และมีราคาแพง อีกทั้งยังมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องถึง 5 แห่ง ทำให้ต้องใช้เวลานานในการดำเนินการขออนุญาต อย่างไรเร็วที่สุดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-7 เดือน

ดังนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกระทรวงอุตสาหกรรมได้นำเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ยกเว้นการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปทุกกำลังการผลิต ที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน ไม่ต้องขอใบอนุญาตอีกต่อไป ขณะเดียวกัน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กำลังเร่งรัดการออกกฎหมายเพื่อปลดล็อคเรื่องการขออนุญาตติดตั้งเช่นกัน

นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า กฎหมายฉบับนี้จะปลดล็อกอย่างถาวรจากกฎหมายอื่น ๆ ที่เคยนำมาอ้างอิงและนำมาใช้กัน จะทำให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของพลังงานไฟฟ้าที่ถูกลง เพราะสามารถติดตั้งได้อย่างง่าย สะดวก และทำตามนโยบายรัฐบาล คือ สนับสนุนส่งเสริมให้ภาครัฐกลายเป็นผู้ให้บริการ เพียงยื่นแจ้งให้ทราบ โดยไม่ต้องใช้ระบบขออนุญาตอีกต่อไป หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องหากต้องการให้ประชาชนปฏิบัติอย่างไร ก็สามารถประกาศไว้ในเว็บไซต์ของกระทรวงได้ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหารื่องความล่าช้าและช่องทางในการประพฤติมิชอบ อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ในการติดตั้งระบบโซลาร์และลดภาระค่าใช้จ่าย ต่อไปจะมีอาชีพใหม่เกิดและสร้างรายได้ให้ประชาชน