“10 วันอันตราย” ปีใหม่ 68 ยอดเสียชีวิต 6 วัน 272 ราย ตายเป็นศูนย์เหลือ 8 จังหวัด
ศปถ. รายงานสถิติ 10 วันอันตราย ปีใหม่ 2568 ยอดสะสม 6 วัน เสียชีวิตรวม 272 ราย บาดเจ็บ 1,694 คน “สุราษฎร์ธานี” ขึ้นนำแชมป์อุบัติเหตุ ส่วนพื้นที่ตายเป็นศูนย์ลดเหลือ 8 จังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ธ.ค.67) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน “10 วันอันตราย” ซึ่งรัฐบาลกำหนด ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.67 จนถึงวันที่ 5 ม.ค.68
สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 1 ม.ค.68 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ”
เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 346 คน ผู้เสียชีวิต 50 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว 38.94% ดื่มแล้วขับ 31.56% ทัศนวิสัยไม่ดี 16.81%
ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 86.42% รถกระบะ 5.20% รถยนต์ส่วนบุคคล 4.05%
ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 81.12% รองลงมา คือ ถนนกรมทางหลวง 40.71% ถนนใน อบต./หมู่บ้าน 30.09%
ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 00:01 – 01:00 น. เวลา 01:01-02:00 น. และเวลา 18:01-19:00 น.
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 24 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 36 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 7 ราย
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม ในช่วง 6 วันของการรณรงค์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.67-1 ม.ค.68 เกิดอุบัติเหตุรวม 1,739 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,694 คน ผู้เสียชีวิต รวม 272 ราย
จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) ลดลงเหลือ 8 จังหวัด
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 63 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 73 คน และจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 12 ราย
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (อธิบดี ปภ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 เปิดเผยว่า วันนี้เป็นแรกของการเปิดทำงานหลังจากเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนบางส่วนได้เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ และจังหวัดเขตเศรษฐกิจในภาคต่าง ๆ แล้ว ขณะเดียวกันก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับ ทำให้เส้นทางสายหลัก เส้นทางสายรอง รวมไปถึงถนนในชุมชนหมู่บ้าน ยังคงมีปริมาณรถหนาแน่น
และเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังการเฉลิมฉลองปีใหม่ ประชาชนบางส่วนได้เดินทางกลับทันที ทำให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเกิดความเหนื่อยล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ จึงทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น จึงได้ประสานทุกจังหวัดให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยให้เข้มข้นการตั้งด่านตรวจจุดตรวจ จุดสกัด บนถนนสายหลักเป็นระยะ ๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ การไม่สวมหมวกนิรภัย และการไม่คาดเข้มขัดนิรภัย โดยหากพบผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าว นอกจากนี้ ให้ขนส่งจังหวัดดูแลความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ใช้รถโดยสารสาธารณะในการเดินทาง ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมรถบริการรับ-ส่งผู้โดยสารจากสถานีขนส่งต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว และตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถและรถขนส่งสินค้า โดยจะต้องเปลี่ยนคนขับให้ปฏิบัติงานติดต่อกันไม่เกิน 4 ชั่วโมง หยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนขับรถต่อได้อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง หรือมีพนักงานขับรถอย่างน้อย 2 คน เพื่อผลัดกันทำหน้าที่ และให้มีการตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพปลอดภัยก่อนเดินทาง
นายภาสกร กล่าวด้วยว่า ศปถ. ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 6 เน้นย้ำให้ใช้กลไกพื้นที่ โดยเฉพาะการตั้งด่านชุมชนหรือด่านครอบครัว เพื่อป้องปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง ขอฝากให้ประชาชนขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด สวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทั้งหมวกนิรภัยและเข็มขัดนิรภัย และมีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง ตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะ เส้นทางการเดินทาง รวมถึงสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง หากขับรถเป็นเวลานาน มีความรู้สึกง่วงหรืออ่อนเพลีย ให้จอดพัก ณ จุดบริการประชาชน หรือจุดพักรถที่ทางราชการจัดสรรไว้ให้ตลอดเส้นทางการเดินทาง