“กอบศักดิ์” หารือ “พิชัย” ต่ออายุกองทุน SSF ตลท. ชี้แรงซื้อ “Thai ESG” เข้าเป้า 3 หมื่นล.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ม.ค.68) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอหารือกับฝ่ายรัฐบาล อาทิ รายงานยอดขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) พร้อมขอหารือเรื่องการต่ออายุมาตรการภาษีของกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ด้วยเงื่อนไขเดิมทั้งหมด เพราะเป็นกองทุนที่นักลงทุนหน้าใหม่สนใจ หวังสร้างนิสัยการลงทุนที่ดี

นอกจากนี้จะหารือถึงโอกาสอื่น ๆ ที่จะส่งเสริมการลงทุนในระยะยาวเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและช่วยกันพัฒนาตลาดทุน รวมถึงการจัดโรดโชว์เพื่อชี้แจงและแสดงให้นักลงทุนต่างชาติเห็นศักยภาพของประเทศไทยมากขึ้น ทั้งที่เป็นเม็ดเงินลงทุนผ่านตลาดต่าง ๆ และนักลงทุนที่ลงทุนผ่าน ETF

สำหรับตลาดหุ้นเปิดปี 2568 นายกอบศักดิ์ มองว่า อาจผันผวนในระยะสั้น เพราะผู้ลงทุนกังวลใจใน 3 เรื่อง คือ 1.นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งตนมองว่า ในวันแรกและสัปดาห์แรกเมื่อทรัมป์ รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะเห็นภาพสงครามทางการค้าชัดเจนขึ้น และประธานาธิบดีคนใหม่จะทำให้เกิดความผันผวนปั่นปวนที่คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ภายใน 4 ปีจากนี้ 2.การเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก (Global Minimum Tax) ที่หลายคนยังกังวลใจ และ 3.Forced Sell หรือ การบังคับขายหลักทรัพย์ค้ำประกัน

ขณะที่นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และโครงการกลยุทธ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า SET Index ในปี 2567 ปิดในระดับที่แทบไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้านี้ โดยตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. แต่ช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ได้รับผลกระทบจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทย เดือนธ.ค.67 มีแรงซื้อจากกองทุน Thai ESG เข้ามา ซึ่งมูลค่าของกองทุน Thai ESG ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมาย