โบรกมองบวก “หุ้นโรงพยาบาล” ชู PR9 เด่นสุด กำไร 3 ปีโตแกร่ง

“บล.เมย์แบงก์” มองบวกหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล แม้เจอความท้าทายจากนโยบาย Co-pay พร้อมชู PR9 เด่นสุด เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 14% ในปี 67-69


บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า เมื่อวันที่ 6-8 ม.ค. ได้จัดงาน Thai Corporate Day ในมาเลเซียและสิงคโปร์โดยมี บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS และ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เข้าร่วม

พร้อมทั้งจัด Roadshow ที่สิงคโปร์เกี่ยวกับแนวโน้มกลุ่ม โรงพยาบาล โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับมุมมอง “เชิงบวก” ของฝ่ายวิจัยในกลุ่มนี้แม้ปี 68 จะเผชิญความท้าทาย เช่น นโยบาย Co-pay และปัญหาในตลาดตะวันออกกลาง

แต่หุ้นบางตัวเริ่มมีมูลค่าที่น่าสนใจ และหุ้นอย่างบริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ซึ่งในสายตาของกองทุนต่างประเทศกลุ่มโรงพยาบาลไทยยังคงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ โดยยังคงเลือก PR9 เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ขณะที่ในบรรดาหุ้นขนาดใหญ่ ชอบ BDMS มากกว่าบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH และในกลุ่ม โรงพยาบาลประกันสังคม (SSO) เลือก CHG เหนือ BCH

สำหรับ BDMS เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากที่สุดในงาน Thai Corporate Day และ Roadshow โดยคำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ของประกันสุขภาพมาเป็นแบบจ่ายร่วม (Co-pay) ซึ่งผู้บริหารคาดว่านโยบายดังกล่าวจะ ส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อย สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ประเมินว่าจะกระทบรายได้รวม เพียง 1-2% เนื่องจากไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่จะเข้าสู่ระบบร่วมจ่าย แต่จะเน้นเฉพาะประกัน รายบุคคลที่มีการเคลมเกินเกณฑ์โดยเฉพาะในกรณีของโรคเล็กน้อย ในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ เราชอบ BDMS มากกว่า เนื่องจากปัจจัยลบที่กดดันหุ้นมีผลจำกัด ขณะที่ BH ยังคงเผชิญ ความไม่แน่นอนต่อเนื่องเกี่ยวกับผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง

โดยเห็นว่ามีกองทุนต่างประเทศมีความสนใจในโรงพยาบาลประกันสังคมมากขึ้น (เทียบกับก่อนหน้านี้ที่แทบไม่ได้รับความสนใจเลย) โดยคำถามส่วนใหญ่เน้นไปที่อัตรา RW>2 และงบประมาณของประกันสังคม นักลงทุนบางส่วนมองเห็นโอกาสในการเข้าซื้อ ซึ่งสอดคล้องกับ มุมมองของเราที่มองว่าการเติบโตกำไรของกลุ่มประกันสังคมจะกลับมาแข็งแกร่งในปี 68 หลังอัตรา RW>2 กลับสู่ระดับปกติ

ทั้งนี้ยังชอบ CHG มากกว่า BCH เนื่องจากมูลค่าที่ถูกกว่า และไม่มีปัจจัยลบจากปัญหาผู้ป่วยคูเวต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังคงกังวลว่า SSO จะสามารถคงการจ่าย RW>2 ที่อัตรา 12,000 บาทได้ในระยะยาวหรือไม่จึงเลือกลงทุนใน โรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยเงินสดเป็นหลักมากกว่า

ด้านกองทุนต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่คัดค้านกับการเลือก PR9 เป็นหุ้นเด่นของฝ่ายวิจัย หลายกองทุนเห็นด้วยว่า PR9 มีความชัดเจนในด้านการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งและโอกาสเติบโตสดใส ในระยะยาวคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ +14% ในปี 67-69 โดยได้ แรงหนุนจากการบุกตลาดตะวันออกกลางที่ประสบความสำเร็จ และการสิ้นสุดรอบการลงทุน ที่ทำให้มีความสามารถรองรับการขยายตัวเพิ่มขึ้น ด้วยการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง PR9 จึงสมควรได้รับการประเมินมูลค่าที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีกองทุนบางส่วนที่ไม่ได้ติดตาม PR9 เนื่องจากขนาดที่ค่อนข้างเล็ก และสภาพคล่องที่ต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่ม

Back to top button