พาราสาวะถี

วันจันทร์ที่ 13 มกราคมนี้ ข่าวหุ้นธุรกิจจัดงานใหญ่ ดินเนอร์ ทอล์ค ภายใต้หัวข้อ “Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market”


วันจันทร์ที่ 13 มกราคมนี้ ข่าวหุ้นธุรกิจจัดงานใหญ่ ดินเนอร์ ทอล์ค ภายใต้หัวข้อ Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Marketงานเริ่มห้าโมงถึงสามทุ่มครึ่ง ที่โรงแรมหรูกลางกรุง ห้องนภาลัยแกรนด์ บอลรูม ดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยช่วงสัมภาษณ์ บูรพา สงวนวงศ์ จะทำหน้าที่ป้อนคำถามให้ ทักษิณ ชินวัตร ตอบ งานนี้ จะได้เห็นวิสัยทัศน์ของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย รวมถึงแนวทางการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เกิดการยอมรับในระดับสากล

ประสาคนเนื้อหอมถูกจองคิวโชว์วิชั่นกันยาวเป็นหางว่าว หลังจากนำเสนอแนวคิด ความเห็นผ่านเวทีปราศรัยเลือกนายก อบจ.มาหลายจังหวัด กระทั่งล่าสุดถูก อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ชี้ว่า การพูดถึงนโยบายรัฐบาลบนเวทีเลือกตั้งท้องถิ่นอาจก้ำกึ่งที่จะผิดกฎหมาย ก็ว่ากันไปตามหลักการของแต่ละคน แต่ละองค์กร ที่ผ่านมาเราจะได้ยินได้ฟังทิศทางการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล บวกกับประเด็นการเมืองร้อนต่าง ๆ 

สำหรับบนเวทีดินเนอร์ทอล์คของข่าวหุ้นรอบนี้ เราจะได้เห็นมุมมอง วิสัยทัศน์ของอดีตผู้นำที่ได้ชื่อว่าช่ำชองในแวดวงตลาดทุนคนหนึ่งเหมือนกัน รับรองว่าคุ้มเกินคุ้ม ไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นการจุดพลุ สร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นรับปีงูไฟกันเลยทีเดียวก็เป็นได้ ไม่เพียงแต่นายใหญ่ของเพื่อไทยเท่านั้นที่เป็นไฮไลต์ของงาน ยังมีผู้ร่วมโต๊ะอาหารเพื่อมาฟังทักษิณพูด ระดับ VVIP ทั้งรัฐมนตรีคนสำคัญในรัฐบาล นักลงทุนระดับบิ๊กเนมอีกเพียบ

ความจริงหากไม่มีมิติที่ว่าด้วยการสร้างความเกลียดชังทางการเมือง สร้างระบอบอุปโลกน์มาใส่ร้ายป้ายสี จนเกิดการรัฐประหารถึงสองรอบเพื่อ กำจัดระบอบทักษิณและทำลายพรรคเพื่อไทย ต้องยอมรับกันว่าทักษิณเป็นอดีตนายกฯ ที่ความรู้ ความสามารถ วิสัยทัศน์ ผลงาน เป็นที่ยอมรับทั้งจากในและนอกประเทศ ถือเป็นความโชคดีที่ แพทองธาร ชินวัตร มีพ่อที่เป็นอดีตนายกฯ การให้คำปรึกษา ชี้แนะ ด้วยโลกทัศน์และประสบการณ์อันโชกโชน จึงถือเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองมหาศาล

ส่วนปมที่ทักษิณถูกจ้องเล่นงานไม่ว่านักข่าวที่ถามประธาน กกต. หรือกรณีข่าวปล่อยเรื่องแชตหลุดบอกความลับในสำนวนการสอบสวนของ ป.ป.ช.ต่อเรื่องร้อนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน เมื่อลงลึกไปยังต้นตอของข่าวที่ถูกปูด ถูกถาม มันก็คือเครือข่ายในขบวนการของคนอยากเป็นใหญ่ มีการชี้นำ สร้างกระแส ใช้จุดอ่อนที่เคยเป็นข้อกล่าวหาโจมตีอดีตนายกฯ ทั้งเรื่องการครอบงำองค์กรอิสระ การวิ่งเต้นเพื่อล้มคดี ใส่สีตีไข่เพื่อกดดันองค์กรที่ทำการตรวจสอบ

อย่างที่รู้กัน การกลับมาภาคนี้ของนายใหญ่พร้อมเพื่อไทย ไม่ได้เป็นหมูสนามที่จะให้ใครมาล้มง่าย ๆ พวกขาประจำย่อมรู้ดี จึงหาวิธีที่จะดิสเครดิตทั้งคนถูกร้อง และฝ่ายตรวจสอบ เพราะมองแนวโน้มแล้วทุกเรื่องที่พวกนักร้องรับงานทำท่าว่าจะไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ดังนั้น หากจะบอกว่าการออกมาให้ข่าว หรือตอบคำถามนักข่าวในเชิงหลักการ เป็นเพียงแอ็กชันที่ต้องทำ เพื่อปกป้องตัวเองและองค์กรไม่ให้ถูกข่มขู่ กดดัน จากพวกขวาสุดขั้วเกลียดชังสุดขอบเท่านั้นเอง

การทำงานในฝ่ายบริหารดูเหมือนว่าจะเข้ารูปเข้ารอย แพทองธารพร้อมจะแสดงศักยภาพในเชิงบริหารให้เป็นที่ประจักษ์ ร่วมกับบรรดาแกนนำเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหลาย ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติก็เริ่มที่จะจัดกระบวนทัพ จับทิศจับทางกันได้ระหว่าง สส.ฟากรัฐบาล กับ สว.มีสังกัด เห็นได้จากการประชุมวิป 3 ฝ่ายที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภานั่งหัวโต๊ะวันก่อน เพื่อถกกำหนดวันประชุมร่วมรัฐบาลพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และหมวด 15/1 จากเดิมกำหนดไว้ 14-15 มกราคมนี้ เลื่อนไปเป็น 13-14 กุมภาพันธ์แทน

ช้าไปเป็นเดือน พรรคประชาชนในฐานะแกนนำฝ่ายค้านย่อมแสดงความไม่พอใจเป็นธรรมดา แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะฝ่ายรัฐบาลยกเอาเรื่องที่เพื่อไทยจะส่งร่างแก้ไขมาประกบ ทำให้ สว.ขอเวลาศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ และไม่แน่ว่าอาจจะมีพรรคการเมืองส่งร่างแก้ไขมาเพิ่มเติม เจอมุกนี้เข้าไปก็จนปัญญาที่จะต้าน ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้านได้แต่เพียงบอกว่า แม้จะเห็นไม่ตรงกัน แต่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น

ไม่ใช่เรื่องแปลก นักการเมืองไม่ว่าจะมีที่มาด้วยวิธีใดก็ตาม สุดท้ายต้องเกิดการเจรจาแล้วหาทางลงที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่เจ็บตัวนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ สว.นั้น ความเป็นไปได้ที่จะยกมือหนุนในการแก้ไขครั้งนี้คงเป็นไปได้ยาก ถ้ามองจากการตีตกร่าง พ.ร.บ.ประชามติโดยยึดเสียงข้างมากสองชั้น กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าการแก้ไขมาตรา 256 และให้มี ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ สว.ส่วนใหญ่อ้างว่าค่อนข้างสุ่มเสี่ยงกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา

การเมือง 3 ก๊กฉบับประเทศไทยย่อมเดินไปในลักษณะนี้ ยังดีที่ว่าสองก๊กที่จับมือกันอยู่ ถูกบังคับด้วยโจทย์ใหญ่คือ ทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เพื่อตีกันอีกหนึ่งก๊กไม่ให้มีโอกาสเข้ามากุมอำนาจบริหารประเทศ จึงมีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดการแตกหัก ทุกอย่างจึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของการต่อรอง หาช่อง บนเงื่อนไขว่าต้องไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียหาย และเสียหน้า โดยที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏเพื่อการันตีความไว้วางใจจากประชาชน

เสาร์นี้งานวันเด็ก อาจจะเป็นครั้งแรกของประเทศก็ว่าได้ที่เด็กและเยาวชนจะได้สัมผัสกับผู้นำประเทศในวัยที่ถือเป็นไอดอลได้ โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายกฯ พี่อุ๊งอิ๊ง ได้มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติกว่า 1,200 คน แนะนำให้รู้คุณค่าตัวเอง มีสติ ทำประโยชน์เพื่อประเทศ ที่น่าจะโดนใจเด็ก ๆ ที่แพทองธารบอกคือไม่ต้องเรียนเก่งที่สุด สวยที่สุด รวยที่สุด แต่ขอให้รู้คุณค่าตัวเองก็ไม่มีใครด้อยค่าได้ โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยนมานานแล้ว แต่อาจเป็นความโชคร้ายที่กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยดันมีผู้บริหารที่ไม่ทันโลก มิหนำซ้ำ ยังนำพาบ้านเมืองถอยหลังลงคลองอีกต่างหาก

อรชุน

Back to top button