ทุบเละ (อีกแล้ว)
วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที เมื่อเห็นแรงขายสาดใส่ตลาดหุ้นไทยไม่ยั้ง จนดัชนีร่วงลงมาปิดที่ระดับ 1,362.97 จุด ลบไป 24.75 จุด
วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที เมื่อเห็นแรงขายสาดใส่ตลาดหุ้นไทยไม่ยั้ง จนดัชนีร่วงลงมาปิดที่ระดับ 1,362.97 จุด ลบไป 24.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.69 หมื่นล้านบาทแบบไร้ทางสู้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนไม่คาดคิดมาก่อนว่า ตลาดหุ้นไทยจะโดนทุบเละแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะเมื่อเหลือบดูตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน ก็ไม่เห็นมีใครที่มีสภาพสะบักสะบอมเหมือนกับตลาดหุ้นไทยพะย่ะค่ะ
ด้วยเหตุนี้จึงมีไม่กี่ประเด็นที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยเละเทะสุด ๆ และในหนึ่งนั้นคือ เรื่องลอบสังหารผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชาในประเทศไทย และเรื่องดาราจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ล่อลวง โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน จนนักท่องเที่ยวรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย พร้อมกับมีข่าวเม้าท์หนาหูออกมาว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศยกเลิกเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งตอนนี้มีความเสียหายเกิดขึ้นราว 5 พันล้านบาทแล้วนะจ๊ะ
ประเด็นตรงนี้กลายเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยไปโดยปริยาย ผนวกกับนักลงทุนเกิดอาการหวาดผวากันเป็นแถว จึงทำให้ตลาดหุ้นไทยหมดสภาพเหมือนอย่างที่เห็นในเวลานี้ ขณะเดียวกันต้องประเมินว่า จุดเด้งครั้งก่อนที่บริเวณ 1,360 จุดยังทำงานได้ดีไหม? หากต้านแรงขายที่มีออกมาไม่ไหว ก็มีสิทธิ์ไหลลงไปกองแถว 1,300 จุดค่อนข้างสูง เพราะตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามาซัพพอร์ตน่ะซี
ขนาดหุ้น IVL ยังโดนขายแบบไม่มีเยื่อใย จนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 21.90 บาท ลบไป 2.30 บาท หรือลงไป 9.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.84 พันล้านบาทแบบไร้ทางสู้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเหมือนกันทั้งนั้น เพราะก่อนหน้านี้มีแต่คนพูดว่า ปีนี้บริษัทจะคัมแบ็กเต็มตัว และราคาหุ้นก็ตอบรับด้วยการค่อย ๆ ขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 67..แล้วเหตุไฉนวานนี้หุ้นถึงทรุดฮวบได้ล่ะคะ
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นตามเก็บหนี้ JMT ก็ถูกถล่มขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะยืนปิดที่อยู่ที่ 14.70 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 16.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า วันนี้ผู้คนไม่ได้มองเรื่องผลงานเป็นตัวหลัก เพราะมัวแต่มองบรรยากาศการลงทุนเอื้อให้เล่นขนาดไหน? เมื่อเห็นว่า หลายอย่างไม่เป็นใจเหมือนที่คาดหวัง จึงสะบัดก้นหนีกันเป็นแถวเจ้าค่ะ
ส่วนรายที่หนักหนาสาหัสของจริง “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นกระดาษลัง SCGP แบบไม่ลังเลใจ หลังราคาหุ้นไหลลงมาเรื่อย ๆ เหมือนไม่มีดิสเบรก แถมแต่ละครั้งที่ถูกขายหนัก ๆ มักเกิดโลว์ใหม่ให้เห็นเป็นประจำ เดี๊ยนเลยรู้สึกเศร้าใจที่วานนี้หุ้นลงมาปิดที่ระดับ 17.70 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 815 ล้านบาท เพราะมันหมายความว่า ผลงานของบริษัทยังไม่ฟื้น เพราะโดนกระดาษจีนตีตลาดเละไงล่ะคะ
เมาท์ถึงเรื่องจีนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ก็อยากเอ่ยถึงหุ้น AAV เพื่อชี้ให้เห็นความกังวลนักท่องเที่ยวจีนแคนเซิลมาประเทศไทยสักหน่อย เพราะประเด็นดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจการบิน เดี๊ยนจึงเชื่อว่า การที่หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 2.46 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 4.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวไม่มากก็น้อย..จริงหรือไม่ เดี๋ยวก็รู้นะนายจ๋า!
สำหรับรายที่เละเทะเกินบรรยาย “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น RS เพื่อชี้ให้เห็นราคาหุ้นที่ร่วงติดฟลอร์ 3 วัน มันเกี่ยวข้องกับการเอาหุ้นที่เอาไปตึ๊งไว้จำนวน 222 ล้านหุ้น หลังจากนั้นก็โดนบังคับขายออกมาแบบนี้ มันเป็นเกมโหดร้ายสำหรับแมงเม่าอย่างแท้ทรู และเมื่อดูจากอาการ “เปิดปุ๊บ ฟลอร์ปั๊บ” ก็ทำให้เชื่อว่า การยืนปิดที่ 1.81 บาท ลบไป 0.79 บาท หรือลงไป 30.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30 ล้านบาท คงไม่ใช่ฟลอร์สุดท้ายแน่ ๆ นะนายจ๋า
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น AS ถูกขายออกมาแบบไม่ยั้ง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 3.10 บาท ลบไป 0.76 บาท หรือลงไป 19.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50 ล้านบาท ก็กลายเป็นหุ้นที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะอาการที่แสดงออกมาเหมือนบอกให้รู้ว่า แรงขายน่าจะมีออกมาอีก ผนวกกับหุ้นเหมือนจะลงไม่สุด เมื่อบวกกับนักเล่นไม่ได้อินกับหุ้นตัวนี้เหมือนเมื่อก่อน จึงไม่ควรแกว่งมือหาเสี้ยนนะคุณพี่
โมนิก้า: และทีมงาน