CGSI มอง SET วันนี้ 1,350-1,370 จุด ชู GULF-ADVANC เด่น

CGSI มอง SET เคลื่อนไหว Sideway down บริเวณ 1,350-1,370 จุด หลังดอลลาร์แข็งค่าติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และ ยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตอยู่ในอัตราที่ต่ำ พร้อมแนะลงทุนหุ้น GULF-ADVANC เด่น


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์คาดการณ์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.68) เนื่องในโอกาสวันไว้ทุกข์แห่งชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ อย่างไรก็ตาม จับตารายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตันและฟิลาเดเฟีย กล่าวแสดงความคิดเห็นสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยวันนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง, การจ้างงานนอกภาคการเกษตร และ อัตราการว่างงาน เดือนธ.ค.

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 0.8% เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ และ ยุโรป ส่งผลให้แนวโน้มการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันสำหรับการทำความร้อนเพิ่มสูงขึ้น

อีกทั้งติดตามการคว่ำบาตรเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซีย ที่มีรายงานว่าสหรัฐฯ มีแผนที่จะกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลให้การนำเข้าน้ำมันในจีนชะลอตัวลง รวมถึงนโยบายของว่าที่ปธน. ทรัมป์ ที่ตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เคยทำในสมัยแรกที่ดำรงตำแหน่ง

นอกจากนี้ จับตาดุลอำนาจในตะวันออกกลาง ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายหลัก หลังนายพลโจเซฟ อูน ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ได้รับเลือกให้เป็นปธน. คนใหม่ของเลบานอน จากเดิมที่ครองอำนาจโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของอิหร่าน

สำหรับความกังวลจากความไม่แน่นอนภายในประเทศสหรัฐฯ ทั้งเศรษฐกิจและนโยบายของทรัมป์ ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.7% นอกจากนี้ ติดตาม สถานการณ์วิกฤตไฟป่าใน LA ที่ตลาดคาดว่าจะสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 1.7 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้คาดว่า SET Index โดยภาพรวมยังคงเคลื่อนไหว Sideway down บริเวณ 1,350-1,370 จุด หลังดอลลาร์แข็งค่าติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และ ยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ รวมถึงเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตอยู่ในอัตราที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าดัชนีวันนี้มีโอกาส Technical Rebound 5-10 จุด หลังดัชนีร่วงแรงกว่า 20 จุด เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.68) จากแรงขายลดความเสี่ยงความไม่แน่นอนของ Global Factor

สำหรับความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศและสถานการณ์ในประเทศที่ยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน อาทิ การไถ่ถอนกองทุน LTF เรายังคงแนะนำในหุ้นกลุ่ม Defensive Play และ Domestic Play

โดยสำหรับหุ้นกลุ่มค้าปลีก แม้ว่ายอดขายสาขาเดิม (SSSG) น่าจะชะลอตัวและทำให้ความน่าสนใจของกลุ่มค้าปลีกลดลง แต่เชื่อว่าผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ยังคงมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 4/67 นำโดยอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจากส่วนผสมการขายที่ดีขึ้น โดย ฐานที่ต่ำน่าจะทำให้ผู้ค้าปลีกกลุ่ม Home improvement มี SSSG กลับมาเป็นบวก และไตรมาส 4/67 น่าจะเป็นไตรมาสที่ผู้ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นและไลฟ์ สไตล์มีผลประกอบการแข็งแกร่งที่สุด

อีกทั้งแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงอย่าง บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP และ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ท่ามกลางการคาดการณ์ของเราว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับลดลงเหลือ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปี 68 เพราะอุปสงค์อ่อนตัวและประเทศ non-OPEC เพิ่มการผลิต รวมถึงเราเชื่อว่าค่าการกลั่นน่าจะเพิ่มขึ้นในปี 68-69 เนื่องจากอุปทานจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง

สำหรับหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมของไทย ปรับลดคำแนะนำเป็น Neutral เนื่องจาก การประเมินมูลค่าหุ้นกลุ่มนี้ถือว่าแพงสำหรับเรา และ เราเชื่อว่าแนวโน้มหุ้นกลุ่มนี้ในปี 68-69 จะได้รับแรงหนุนจากการเติบโตที่ช้าลงของ Organic growth ในขณะที่ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบอาจสูงขึ้นเนื่องจากการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะมีขึ้นภายในไตรมาส 3/68

หุ้นแนะนำ

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง เป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้น GULF เพื่อ Trading เก็งกำไรระยะสั้นจากแรงซื้อกลับ(Take profit : 60.00 / Stop loss : 56.25)

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ราคาหุ้น AIS สูงกว่าดัชนี SET 33.4% ในปี 2024 เราเชื่อว่าการประเมินมูลค่าที่ 8.6 เท่า EV/EBITDA และมีค่า P/E ที่ 22.7 เท่า ในปี 68 สะท้อนถึงการแข่งขันที่ผ่อนคลายลงในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์เป็นอย่างดี และการเติบโตของ EPS อย่างแข็งแกร่งที่ 5.4-21.2% ในปี 67-69 โดยมองว่าเรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงวานนี้กว่า -2.8% เป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้น เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น (Take profit : 286 / Stop loss : 271)

Back to top button