“ทองนิวยอร์ก” ปิดบวก 24.20 เหรียญ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 2,715.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 24.20 ดอลลาร์ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงาน สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกในวันศุกร์ (10 ม.ค.68) เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดจะตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วในปีนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 24.20 ดอลลาร์ หรือ 0.90% ปิดที่ 2,715.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สำหรับราคาทองคำปรับตัวลงในระยะสั้น ๆ สู่ระดับ 2,663.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าอาจจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.1% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 4.2%
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.68 และปรับตัวขึ้นมากกว่า 1.7% ในรอบสัปดาห์นี้
สำหรับ เดวิด เมเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าทองคำที่ไฮริดจ์ฟิวเจอร์ส (High Ridge Futures) กล่าวว่า “ทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ แม้รายงานการจ้างงานออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด โดยหนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนทองคำคือความไม่แน่นอนที่เราเห็นก่อนโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
ขณะที่การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ในวันที่ 20 ม.ค.68 ใกล้เข้ามานั้น บรรดานักลงทุนรู้สึกกังวลเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะกำหนดภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้าหลายประเภท ซึ่งนักลงทุนวิตกว่าจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้อีก
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงจะทำให้ความน่าสนใจของทองคำลดลง เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย