ครม.เคาะร่าง “พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ” ส่ง “กฤษฎีกา” สร้างเม็ดเงิน 4 หมื่นล้าน
นายกฯ “แพทองธาร” เผย ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎหมาย “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเข้าสภาฯ "จุลพันธ์" เทียบ EEC หวังสร้างเม็ดเงินให้รัฐ 4 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ม.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ… หรือ “เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” (Entertainment Complex) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยมีสาระเป็นการกำหนดให้มีกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เช่น กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหารจัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในเรื่องของการอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร
วัตถุประสงค์ของการออกร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อที่จะเพิ่มเรื่องการท่องเที่ยว และส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ตลอดจนแก้ปัญหาเรื่องของการพนันผิดกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน และก็จะทำให้เกิดผลดีต่อสังคมภาพรวมในอนาคต โดยเป็นหนึ่งในการสนับสนุนเรื่องของการท่องเที่ยวยั่งยืน หรือว่าให้เป็น man-made tourism destination ที่เคยประกาศแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า กระทรวงการคลังได้รับความเห็นจากในที่ประชุมครม. ซึ่งมีหลายหน่วยงานเสนอมา เพื่อส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปตรวจปรับร่างฯ เพื่อที่จะนำส่ง ต่อสภาผู้แทนราษฎร เป็นขั้นตอนถัดไป
โดย พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐ ข้อที่ 7 เรื่องของการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือที่เรียกว่า man-made tourism destination เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย ซึ่งเรื่องของเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่เรื่องของการทำคาสิโนแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้ว เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยว Family คือครอบครัวมาเที่ยวได้ ส่วนน้อยเป็นคาสิโนที่มาประกอบ
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า โมเดลนี้เป็นโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก เช่น เนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา, มาเก๊า และสิงคโปร์ ส่วนที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น, ยูเออี (UAE) ทั้งนี้สามารถดำเนินการและปรับเปลี่ยนรูปโฉมภาคการท่องเที่ยวได้อย่างเป็นรูปธรรม จะทำเม็ดเงินให้กับประชาชนในประเทศ เก็บรายได้ให้กับรัฐ มีรูปแบบในการบริหารจัดการ ที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นองค์ประกอบของเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ วันนี้ก็มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากครม. ในเรื่องกีฬาพื้นถิ่น ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย, ไก่ชน เมื่อดำเนินการแล้วจะสามารถดึงดูดการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ๆ เช่น เรื่องของการทำไมซ์, การสร้างสถานที่รองรับการจัดคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งการลงทุนจริงต่อจุด จะมีไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยประเมินว่า เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะทำให้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเติบโต 5-10% จะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายการท่องเที่ยวในช่วงโลซีซั่นได้ไม่ต่ำกว่า 13% เพิ่มรายได้ต่อหัวจากนักท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อราย มีการจ้างงาน 9,000-15,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 0.3-0.5% พัฒนาศักยภาพแรงงาน และสร้างรายได้ให้รัฐไม่ต่ำกว่า 12,000-40,000 ล้านบาท
นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า รายได้ดังกล่าวข้างต้น ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจประกอบอื่น เช่น โรงแรม สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ส่วนรายได้จากการพนันนั้นจะเป็นส่วนน้อย ซึ่งจะสามารถนำกลับมาใช้พัฒนาประเทศและเยียวยาในส่วนที่เกี่ยวข้อง การมีกฎหมายเพื่อควบคุมกำกับและแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายต่อไป โดยขณะนี้ได้ส่งร่างกฎหมายฉบับนี้ กระทรวงการคลังได้ส่งไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เชื่อว่าใช้เวลา 1-2 เดือน จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรต่อไป
สำหรับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องรับฟัง ย้ำรัฐบาลไม่ได้ต้องการเห็นพื้นที่คาสิโน ที่มีเพียงโรงแรมแต่ไม่ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เราต้องการสร้างพื้นที่ใหม่ของประเทศ เนรมิตทั้งหมดภายในกรอบของกฎหมาย เช่นเดียวกับ โครงการ EEC