จับตา! ก.ล.ต.ไฟเขียวกองทุน Bitcoin ETF เทรดตลาดหุ้นไทย
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เผย ก.ล.ต.เตรียมพิจารณาอนุมัติให้นักลงทุนสถาบันสามารถเข้าลงทุนในกองทุน Bitcoin ETF ในประเทศได้ ผลักดันการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิง สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า ประเทศไทยอาจอนุญาตให้กองทุน Bitcoin ETF เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากประเทศไทยกำลังพยายามผลักดันการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล
ด้าน น.ส.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ก.ล.ต. กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาตให้นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันสามารถเข้าลงทุนในกองทุน Bitcoin ETF ในประเทศได้
“ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม เราก็ต้องก้าวไปตามทิศทางของโลกที่มีการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นทั่วโลก เราต้องปรับตัวและทำให้มั่นใจว่านักลงทุนของเรามีทางเลือกมากขึ้นในสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้มาตรการปกป้องดูแลที่เหมาะสม” นางสาวพรอนงค์ กล่าว
โดยก่อนหน้านี้ บลจ.วรรณ ได้เปิดตัวกองทุนที่เข้าลงทุนใน Bitcoin ETF ในต่างประเทศเมื่อเดือน มิ.ย.67 แต่ประเทศไทยยังไม่ได้อนุญาตกองทุน ETF เข้าลงทุนโดยตรงในคริปโทเคอร์เรนซี
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงจุดยืนของไทยนี้มีขึ้นในขณะที่การแข่งขันเพื่อจัดตั้งศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเข้มข้นขึ้น นำโดย “สิงคโปร์” และ “ฮ่องกง” ที่ได้จัดตั้งการสนับสนุนต่างๆ อย่างเป็นระบบ ในขณะที่ฝั่งประเทศเขตเศรษฐกิจเบอร์ 1 อย่างสหรัฐนั้น ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวระหว่างการหาเสียงว่าเขาตั้งใจที่จะทำให้สหรัฐเป็น “เมืองหลวงของสกุลเงินดิจิทัลของโลก”
ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทไบแนนซ์ โฮลดิงส์ (Binance) และบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ได้กำหนดให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดการเติบโตที่สำคัญ เนื่องจากประเทศได้ผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ลงมา ในขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็นเสมือนหัวหน้าพรรคเพื่อไทยซึ่งกำลังเป็นพรรครัฐบาล ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สนับสนุนเรื่องสกุลเงินดิจิทัลด้วย
ด้านอดีตนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ประเทศไทยควรพิจารณาการออกเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับการหนุนหลังด้วยพันธบัตรรัฐบาลให้กับนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน ตลอดจนสำรวจช่องทางอื่นๆ สำหรับสกุลเงินดิจิทัล และรัฐบาลยังกำลังพิจารณาทำแซนด์บ็อกซ์ในจ.ภูเก็ต เพื่อทดลองการใช้ธุรกรรมบิตคอยน์ในบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวด้วย
น.ส.พรอนงค์ กล่าวด้วยว่า ก.ล.ต. จะพิจารณาการอนุญาตให้บริษัทในท้องถิ่นที่มีเครดิตเรตติ้งสูงสามารถออก Stablecoin ใหม่ที่ใช้หุ้นกู้ของบริษัทตนเองเป็นหลักประกันได้ โดยคาดหวังว่าจะช่วยขยายการเข้าถึงตลาดตราหนี้และช่วยลดต้นทุนกู้ยืมของภาคธุรกิจลง
ทั้งนี้ กิจกรรมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยกำลังฟื้นตัวขึ้นไปตามราคาสินทรัพย์ที่สูงขึ้น โดยบิตคอยน์เพิ่งทำราคาสูงสุดทุบสถิติใหม่แตะระดับ 108,315 ดอลลาร์/บิตคอยน์ เมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีบัญชีซื้อขายคริปโทฯ ที่ยังแอกทีฟอยู่ประมาณ 270,000 บัญชีในไทย ณ วันที่ 30 พ.ย. แต่กิจกรรมการซื้อขายก็ยังห่างจากช่วงพีกก่อนเกิดโควิด ซึ่งเคยขึ้นไปสูงมากก่อนที่จะเกิดวิกฤติบริษัทคริปโทฯ ล้มละลายกันเป็นโดมิโนในช่วงปี 65