PTT หลุด 30 บาทไหม

เมื่อวานนี้ราคาหุ้น บมจ.ปตท. (PTT) กลับมาปรับขึ้นได้

หลังจากวันก่อนหน้านี้ (14 ม.ค.) ร่วงลงมา 1 บาท ปิด 30.25 บาท เปลี่ยนแปลง -3.2% และระหว่างวันราคาลงมายังจุดต่ำสุดคือ 30.00 บาท

ในวันนั้น ส่วนตัวเฝ้าดูหุ้น ปตท.เกือบตลอดวัน

เหตุผลเพราะหากหลุดลงมาต่ำกว่า 30.00 บาท ที่เป็นแนวรับ “จิตวิทยา”

อาจจะทำให้ที่ระดับราคานี้ (30.00 บาท) พลิกกลับมาเป็น “แนวต้าน” ทันที และทำให้ราคาหุ้น ปตท. มีโอกาสสูงที่ถูกดึงลงมาเล่นใน “กรอบล่าง” ที่ต่ำกว่า 30.00 บาท

ประกอบกับหุ้น ปตท. เป็นบิ๊กแคป มีมาร์เก็ตแคปกว่า 8.67 แสนล้านบาท

หากราคาลงมาลึกมากเกินไป ทำให้ดัชนี SET จะถูกกดดันลงไปอีก

มีคำถามเกิดขึ้นว่า ทำไมเมื่อวันอังคารที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ราคาหุ้น ปตท.ถึงลงหนัก

คำตอบ คือ ส่วนหนึ่งมาจากการปาฐกถาพิเศษของ “ทักษิณ ชินวัตร” ในหัวข้อ “Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market” จัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ที่มีการระบุเกี่ยวกับแนวทางการปรับลดค่าไฟฟ้าลงมาที่ 3.70 บาท ซึ่งจะให้ ปตท. หรือ PTT ปรับลดค่าท่อก๊าซลงมา

“แนวทาง (ลดค่าไฟลงมาที่ 3.70 บาท) นี้ ทาง ปตท.อาจจะกระทบนิดหน่อย เพราะมีค่าผ่านท่อ แต่ก็เต็มใจที่จะต้องลด” เป็นส่วนหนึ่งของคำกล่าว “ทักษิณ” ในวันงานฯ

จะว่าไปแล้ว ปัจจัยเรื่องการปรับลดค่าท่อ เพื่อลดค่าไฟฟ้าไม่ใช่ข้อมูลใหม่อะไรนัก

เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการกล่าวถึงแนวทางดังกล่าวมาบ้าง และเป็นปัจจัยต่อการกดดันราคาหุ้น ปตท.มาเนือง ๆ

ทว่าพอ “ทักษิณ” มาย้ำข้อมูลตรงนี้

ทำให้แนวทางเรื่องการปรับลดค่าท่อ น่าจะเริ่มเป็นจริงมากขึ้น

ทำให้นักลงทุน (โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน/กองทุน Active Fund) ต่างปรับพอร์ตขายหุ้น ปตท.ออกมาเพิ่ม เพื่อลดความเสี่ยงไปก่อน รอความชัดเจนอีกครั้งว่า ถึงที่สุดแล้ว จะกระทบกับรายได้ของ ปตท.อย่างไร

และจะมีนัยฯ ต่อ “กำไรสุทธิ” มากหรือน้อยแค่ไหน

ช่วงที่ราคาลงมา ยังความโชคดีของคนที่ยังถือหุ้น ปตท. แล้วยังไม่ได้ขายออกมา

คือการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกวิ่งขึ้นในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้

ส่งผลบวกไปยังหุ้นลูกคือ PTTEP และส่งผลดีมายังบริษัทแม่คือ ปตท.ด้วย

ยังน่าจะมีปัจจัยบวกเกี่ยวกับทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ของ PTTEP ที่จะออกมาในไตรมาส 4/2567 มีกำไรสุทธิที่มาจากการประมานการของบรรดานักวิเคราะห์ หรือมี Consensus ราว ๆ 1.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3-4% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่อาจจะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2566

อย่างที่เรารับทราบกับหุ้น ปตท. หรือ PTT อยู่ในการคำนวณดัชนี SET50

มีกองทุนประเภท Passive Fund ถือกันอยู่นับสิบ ๆ กองทุน

กองทุน Passive Fund มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กองทุนรวมดัชนี หรือ Index Fund เป็นกองทุนรวมหุ้นที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ “ใกล้เคียงกับดัชนีให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้”

ดังนั้น ไม่ว่าหุ้นนั้น ๆ จะลงมาอย่างไร กองทุนประเภทนี้ยังต้องถืออยู่ต่อไป

กองทุน Passive Fund อาจไม่มีสิทธิที่จะขาย แต่พวกเขาสามารถที่จะ “ซื้อ” เพิ่มได้

จึงมีความเป็นไปได้ว่า น่าจะมีผู้จัดการกองทุนประเภทดังกล่าว เข้ามาซื้อหุ้น ปตท.เพิ่มในจังหวะราคาปรับลง อาจด้วยเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือนัยฯ อย่างอื่น

แรงซื้อกลับของหุ้น ปตท.วานนี้ จึงอาจจะมีการซื้อของกองทุน Passive Fund ด้วยก็ได้

เพื่อเข้าไปรับแรงของกองทุน Active Fund

ในด้านสัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้น ปตท. มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 29.50 บาท

สมมุติว่า หากหุ้น ปตท. เกิดหลุด 30.00 บาท ขึ้นมาจริง ๆ แต่ก็ไม่ควรหลุด 29.50 บาท

แต่หวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้น

ธนะชัย ณ นคร