โบรกชี้ TOP ไตรมาส 4/67 พลิกกำไร รับอานิสงส์กลุ่ม “โรงกลั่น-อะโรเมติกส์-Lube base” หนุน
บล.ลิเบอเรเตอร์ ประเมินผลการดำเนินงานของ TOP พลิกมีกำไรในไตรมาส 4/67 รับอานิสงส์กลุ่ม “โรงกลั่น-อะโรเมติกส์-Lube base” พร้อมเคาะราคาเป้าหมาย 34.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (16 ม.ค.68) กล่าวถึงกรณีของ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP โดยคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 จะพลิกมีกำไรได้อีกครั้งตามที่ฝ่ายวิจัยมองไว้ก่อนหน้า รับอานิสงส์ผลบวกแยกตามกลุ่มธุรกิจดังนี้
กลุ่มโรงกลั่น คาดใช้กำลังการผลิต 110-112% ขณะที่ GRM ฟื้นตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวหนุนให้ความต้องการใช้น้ำมันเครื่องบิน และดีเซล ดีขึ้นส่งผลให้ส่วนต่างราคาเพิ่มขึ้น 1.7 เหรียญ/บาร์เรล และ 1.5 เหรียญ/บาร์เรล ตามลำดับ ซึ่งคาดจะทำให้ GRM อยู่ที่ 5.2 เหรียญ/บาร์เรล จากเดิม 3.7 เหรียญ/บาร์เรล
กลุ่มอะโรเมติกส์ กลุ่ม TPX ใช้กำลังการผลิต 80% ขณะที่กลุ่ม LAB คาดใช้กำลังการผลิต 120-130% แต่คาด GIM จะลดเหลือ 1 เหรียญ/บาร์เรล จาก 1.2 เหรียญ/บาร์เรล
กลุ่ม Lube base คาดมีการใช้กำลังการผลิต 83-85% แต่ GIM ดีขึ้นจาก 0.5 เหรียญเป็น 1 เหรียญ/บาร์เรล คาดว่าทั้งกลุ่ม GIM อยู่ที่ 7.2 เหรียญ/บาร์เรลจาก 5.4 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ 2.5 เหรียญจาก 1.9 เหรียญจากปกติในไตรมาส 4 จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ
โดยคาดจะมีรายการพิเศษเกิดขึ้นมีขาดทุนจากสต็อกลดลง 1,873 ล้านบาท แต่จะมีการโอนกลับมูลค่าสินค้าราว 2,000 ล้านบาท และคาดจะมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง 682 ล้านบาท ตามเงินบาทแข็งค่า และมีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ราว 50 ล้านบาท คาดกำไรสุทธิ 2,333 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 4,218 ล้านบาท
ทั้งนี้ แม้แนวโน้มการดำเนินงานฟื้นตัวตาม GRM ที่ดีขึ้น และคาดยังต่อเนื่องในไตรมาส 1/68 อย่างไรก็ตาม ประเด็น CFP ที่ทั้งต้องใส่เงินเพิ่มและความล่าช้าที่เกิดขึ้นอาจทำให้ความได้เปรียบของ TOP จะน้อยลงภายใต้อุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการใช้รถ EV ที่มากขึ้น โดยกลยุทธ์การลงทุนยังให้เล่นรอบตามการเหวี่ยงขึ้นลงของ GRM และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ดังนั้นยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท