ซื้อหุ้นคืน แก้โจทย์ ‘หุ้นต่ำบุ๊ก’.!

เก็บตกอีกหนึ่งมุมคิดของ “ดร.ทักษิณ ชินวัตร” จากงาน Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ


เก็บตกอีกหนึ่งมุมคิดของ “ดร.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จากงาน Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ ว่าด้วยเรื่องการสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน หรือ Treasury Stock เพื่อทำให้ราคาหุ้นกับมูลค่าทางบัญชี (BV) ใกล้เคียงกัน…

งั้นลองไปสแกนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ กันหน่อยดีกว่า มีหุ้นตัวไหนบ้างที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี เริ่มที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) อยู่ที่ 0.53 เท่า, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มี P/BV อยู่ที่ 0.70 เท่า, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB มี P/BV อยู่ที่ 0.86 เท่า

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB มี P/BV อยู่ที่ 0.72 เท่า, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY มี P/BV อยู่ที่ 0.47 เท่า, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB มี P/BV อยู่ที่ 0.76 เท่า…หุ้นกลุ่มแบงก์นี่ราคาต่ำบุ๊กเกือบทั้งกลุ่ม

ตามมาด้วยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT มี P/BV อยู่ที่ 0.80 เท่า, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มี P/BV อยู่ที่ 0.40 เท่า, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มี P/BV อยู่ที่ 0.36 เท่า, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC มี P/BV อยู่ที่ 0.85 เท่า, บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU มี P/BV อยู่ที่ 0.44 เท่า

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC มี P/BV อยู่ที่ 0.55 เท่า, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP มี P/BV อยู่ที่ 0.98 เท่า, บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO มี P/BV อยู่ที่ 0.56 เท่า, บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL มี P/BV อยู่ที่ 0.95 เท่า, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF มี P/BV อยู่ที่ 0.76 เท่า

นี่แค่บางส่วนเท่านั้นนะ…ยังมีอีกเพียบ แต่คงไล่กันไม่หวาดไม่ไหวหรอก…ไปหาดูเองละกัน

ถ้าสังเกตจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นหุ้นบูลชิพทั้งน้านนน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอิทธิพลต่อตลาดฯ ค่อนข้างมาก

สิ่งที่ทำได้ต้องบิลต์ราคาในกระดาน…แต่ตั้งแต่เกิดวิกฤตความเชื่อมั่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้กลไกปกติที่จะทำให้หุ้นพวกนี้เกินบุ๊กแวลูไม่ต่างจากการเข็นครกขึ้นภูเขา ดังนั้นต้องใช้ตัวช่วย หนึ่งในนั้นก็คือ การซื้อหุ้นคืน..!!

แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทจะทำได้นะ…บริษัทที่จะซื้อหุ้นคืนได้ ควรอยู่ภายใต้เงื่อนไข 1) เป็นบริษัทที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่ง และ 2) มีสภาพคล่องส่วนเกินสูง แต่ไม่ได้ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น เช่น การลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น

การซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารสภาพคล่อง และอัพราคาหุ้นให้เกินบุ๊ก จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ขณะที่ปี 2567 มีบจ.ที่ซื้อหุ้นคืน ประกอบด้วย บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่า 3,000 ล้านบาท, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK จำนวน 130 ล้านหุ้น มูลค่า 3,000 ล้านบาท, บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM จำนวน 30 ล้านหุ้น มูลค่า 700 ล้านบาท, บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่า 640 ล้านบาท

บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH จำนวน 63.49 ล้านหุ้น มูลค่า 400 ล้านบาท, บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH จำนวน 18 ล้านหุ้น มูลค่า 420 ล้านบาท, บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH จำนวน 35 ล้านหุ้น มูลค่า 200 ล้านบาท

ล่าสุดเปิดปี 2568 ประเดิมด้วยบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL จำนวน 130 ล้านหุ้น มูลค่า 300 ล้านบาท

ส่วนหลังจากนี้จะมีบริษัทไหนงัดไม้เด็ดแก้ปมหุ้นต่ำบุ๊กแวลูด้วยการซื้อหุ้นคืนอีกบ้าง..?? ต้องจับตากันต่อไป

แต่เชื่อว่ามีแหละ…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button