เช็กลิสต์นโยบายวันแรก “ทรัมป์ 2.0” ทั่วโลกจับตา สร้างของใหม่เขย่าโลก!
เช็กลิสต์นโยบายวันแรก “ทรัมป์ 2.0” เผด็จการใน 24 ชั่วโมง หลังรับตำแหน่ง รื้อของเก่าสมัยโจ ไบเดน สร้างของใหม่เขย่าโลก!
ทั่วโลกจับตาพิธีสาบานตน รับตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 47 ของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งจะจัดขึ้นในเวลา 12.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเที่ยงคืนวันนี้ (20 ม.ค.68) ตามเวลาในประเทศไทย ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ
คาดการณ์กันว่า พิธีนี้จะเป็นการรวมตัวของมหาเศรษฐีชื่อดังระดับโลก เช่น อีลอน มัสก์ เจ้าของยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้า เทสลา (Tesla) อุตสาหกรรมอวกาศ สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) และแอปพลิเคชั่น เอ็กซ์ (X) ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล “ทรัมป์ 2.0” นอกจากนี้ยังมี มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก และเมตา (Meta) รวมถึง เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง แอมะซอน (Amazon) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ขณะที่ หาน เจิ้ง รองประธานาธิบดีจีน เป็นตัวแทนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางมาร่วมพิธีนี้ด้วย
- รื้อของเก่า-สร้างของใหม่ เขย่าโลก!
ขณะที่สื่อต่างประเทศจับตาวันแรกของ “ทรัมป์” ในตำแหน่งประธานาธิบดี จะมีการออกคำสั่งฝ่ายบริหาร เกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน, นโยบายด้านพลังงาน และการดำเนินการของรัฐบาลกลาง เพื่อดำเนินการตามการรณรงค์หาเสียงเขาในหลายสิบประเด็น ตามที่ได้ให้คำมั่นว่า จะออกคำสั่งฝ่ายบริหาร มากกว่า 100 ฉบับ ในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เพื่อยกเลิกสิ่งที่รัฐบาลของนายโจ ไบเดน ดำเนินการมา
อย่างไรก็ตาม แม้นาทีนี้ยังไม่มีใครล่วงรู้ถึงสิ่งที่ทรัมป์จะทำในวันแรกได้อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ทว่าสื่อต่างประเทศหลายสำนัก พากันวิเคราะห์ เรื่องใหญ่ ๆ ที่คาดว่าทรัมป์จะลงมืออย่างเผด็จการ ภายใน 24 ชั่วโมง ที่ทำเนียบขาว เมื่อเขาเป็นผู้นำอภิมหาประเทศอย่างเต็มตัว
- ลิสต์ 8 นโยบายทำทันทีของประธานาธิบดี “ทรัมป์”
- ปิดพรมแดน
ทรัมป์ ได้ออกมาตอบโต้นโยบายการย้ายถิ่นฐานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างกว้างขวาง โดยให้คำมั่นว่า จะใช้เวลาวันแรกที่ดำรงตำแหน่งในการ “ยุตินโยบายเปิดพรมแดนทุกประการของรัฐบาลไบเดน” นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวในงานหาเสียงที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ในเดือนต.ค.67 ว่า เขาจะ “ใช้ Title 42” ซึ่งเป็นกฎหมายด้านสาธารณสุขที่บังคับใช้ในช่วงเริ่มต้นของวิกฤตโควิด-19 และอนุญาตให้ทำเนียบขาวส่งผู้อพยพกลับประเทศได้เร็วขึ้น
- เนรเทศหมู่ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ให้คำมั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะเนรเทศผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารออกไป โดยเน้นไปที่การโยกย้ายอาชญากร คนที่เพิ่งข้ามแดนเข้ามา และคนที่ถูกศาลสั่งเนรเทศ คาดกันว่า เจ้าหน้าที่ด้านตรวจคนเข้าเมืองจะถูกโยกย้าย รวมทั้งยกเลิก แอปพลิเคชันตรวจคนเข้าเมือง “CBP One” ที่ออกในสมัยรัฐบาลไบเดน
- ยุติการสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิด
กฎหมายสหรัฐฯ ให้สิทธิการเป็นพลเมืองโดยอัตโนมัติ กับทุกคนที่เกิดมาในสหรัฐฯ แม้การเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้จะต้องเจอกับความยุ่งยาก และเกือบนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ในรายการ Meet the Press ทางสถานี NBC News เมื่อเดือน ธ.ค.67 เมื่อพิธีกรถามทรัมป์ว่า ยังมีแผนที่จะยุติสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิดตั้งแต่วันแรกหรือไม่ ซึ่งทรัมป์ ตอบว่า “แน่นอน”
- อภัยโทษ “คดี 6 มกราคม”
ทรัมป์ บอกว่า จะอภัยโทษคนที่ถูกดำเนินคดี ในเหตุการณ์จลาจลบุกรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 (ค.ศ. 2021) เนื่องจากกว่า 1,500 คน ที่ถูกดำเนินคดีนั้น ไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้ง ในปี 2563 (ค.ศ.2020) ที่โจ ไบเดน เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง และทำให้เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
“ผมจะทำเรื่อง 6 มกราคมก่อน บางทีอาจทำตั้งแต่ 9 นาทีแรก” ทรัมป์ เคยกล่าวกับไทม์ เมื่อเดือน ธ.ค.67
- ยุติสงครามจริง
การยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นอีกนโยบายที่ถูกหลายฝ่ายเฝ้ารออย่างมาก ว่าทรัมป์จะทำสำเร็จจริงหรือไม่ โดยระหว่างการขึ้นเวทีดีเบต กับ “กมลา แฮร์ลิส” เมื่อเดือน ก.ย.67 ว่า เขาบอกว่าจะยุติสงครามในยูเครนได้ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเข้ารับตำแหน่งหรืออาจจะก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ
- ขึ้นพิกัดอัตราภาษีศุลกากร
ทรัมป์ เคยบอกว่า เขาจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อบังคับใช้ภาษีศุลกากร 25% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด 2 ราย ที่เกินดุลการค้ากับอเมริกา ส่วนสินค้าจาก “จีน” ก็ต้องติดตามเช่นกันว่า ทรัมป์จะขึ้นภาษีสินค้าจีนทุกรายการจากเดิม 60% อีก 10% หรือไม่
- ยุติบังคับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
ในสมัยประธานาธิบดี โจ ไบเดน มีออกระเบียบใหม่จากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) ที่จำกัดมลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์ ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทรัมป์เคยแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวระหว่างการหาเสียง โดยเขากล่าวว่า นโยบายเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ “การหลอกลวงสีเขียวใหม่”
- ห้าม “ข้ามเพศ” เล่นกีฬาผู้หญิง
ทรัมป์ ประกาศปกป้อง สิทธิสตรี ด้วยการจะห้ามหญิงข้ามเพศ แข่งขันในกีฬาของผู้หญิง นอกจากนี้ยังต้องจับตา การห้ามบุคคลข้ามเพศรับราชการในกองทัพด้วย เนื่องจากเขาเคยระบุว่า ภายใต้รัฐบาลของเขา นโยบายทางการของสหรัฐฯ จะมีแค่ 2 เพศ คือ ชายและหญิง
- “ทรัมป์” ส่งสัญญาณดีกับจีน ดันดัชนีทั่วโลกปรับขึ้น
ขณะที่มุมมองของนายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัท หลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า พิธีสาบานตนของทรัมป์ เป็นสิ่งที่นักลงทุนจะจับตา ได้แก่ การกีดกันการค้าระหว่าง สหรัฐฯ กับ นานาประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ออกมาโพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล (Truth Social)ว่า ได้พูดคุยกับ “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน ในหลายเรื่องทั้งการค้า และประเด็นของ TikTok โดยการพูดคุยเป็นไปด้วยดีและจะหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยเริ่มทันที พร้อมย้ำว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้โลกพบกับความสงบและปลอดภัย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ จึงมองเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นโลกในระยะสั้น อย่างไรก็ตามในอดีตที่ผ่านมา ทรัมป์ก็มักพูดประโยคในทำนองนี้ และหลังจากนั้นก็มักแถลงต่อว่า การเจรจาต่าง ๆ ไม่คืบหน้า และตลาดหุ้นก็กลับมาปรับฐาน