ปอบก็คือปอบโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยากจริงๆ ขนาดเห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่ามีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น ถัดมาอีกวันกลับโดนสาดทิ้งแบบไม่เหลือเยื่อใย “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวที่เห็นดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,280.74 จุด ลบไป 24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.53 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ในระหว่างวันพยายามประคองตัวยืนเหนือระดับ 1,300 จุด มันเป็นช็อตเดิมๆ ที่เวียนมาอีกครั้งเจ้าค่ะ


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยากจริงๆ ขนาดเห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่ามีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น ถัดมาอีกวันกลับโดนสาดทิ้งแบบไม่เหลือเยื่อใย “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวที่เห็นดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,280.74 จุด ลบไป 24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.53 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ในระหว่างวันพยายามประคองตัวยืนเหนือระดับ 1,300 จุด มันเป็นช็อตเดิมๆ ที่เวียนมาอีกครั้งเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงไม่ต้องวิเคราะห์อะไรให้ปวดกบาล เพราะสิ่งที่เดี๊ยนพยายามเชื่อมาตลอดว่า ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น  พอเอาเข้าจริงๆ กลับไม่เป็นเช่นนั้น! อาการท้อแท้เลยบังเกิดขึ้นให้เห็นเป็นหย่อมๆ “โมนิก้า” ถึงต้องกลับไปยึดหลัก “เข้าเร็ว ออกเร็ว”  เพื่อความคล่องตัวในการลงทุน พร้อมกันนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันว่า การพลิกแนวต้าน 1,300 จุดเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ยังทำไม่สำเร็จนะจะบอกให้

*ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ “โมนิก้า” มั่นใจขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งว่า จุดขายยังเป็นจุดเดิม และจุดรับก็ยังเป็นจุดเดิม หากวันนี้อ่อนตัวหลุดแนวรับ 1,280 จุด ก็ให้ไปรอรับอีกทีบริเวณ 1,250 จุด ซึ่งเป็นไซเคิลที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า ควรต้องทำตัวอย่างไร? แต่ที่น่าแค้นใจสุดก็คือ ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อปอบผีฟ้ามลายหายไปหมดสิ้น หลังหลงเชื่อว่า จะเป็นผู้ค้ำยันดัชนีที่สำคัญนะซี

*เนื่องจากเป็นนักลงทุนเพียงกลุ่มเดียวที่สาดหุ้นออกมา 2.31 พันล้านบาท ขณะที่แมงเม่าปีกแข็งเข้าไปรับ 1.64 พันล้านบาท ตามติดด้วยกองทุนขี้ตืดช่วยซื้ออีก 480 ล้านบาท ก่อนจะตบท้ายด้วยฝรั่งตาน้ำข้าวอีก 200 ล้านบาท ซึ่งทำให้เดี๊ยนเข้าใจในสัจธรรมที่ว่า “ปอบก็คือปอบ”…วันก่อนเป็นแกนหลักซื้อหุ้นเข้าไป 2.46 พันล้านบาท ล่าสุดวานนี้เทกระจาดหุ้นเหมือนโลกกำลังจะแตกแบบนี้..นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยนะตัวเอง

*เมื่อแมงเม่าพบตัวการที่คอยทุบดัชนี “โมนิก้า” ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเม้าท์ถึงอะไรให้มากความ และขอเอาเวลาที่มีอยู่ไปเม้าท์ถึงหุ้นเด็ดๆ อย่าง THCOM ให้ชื่นอุราดีกว่า เพราะกลายเป็นดาวเด่นที่เจิดจรัสบนกระดาน most active เพียงรายเดียว หลังจากตัวเลขปี 58 มีกำไรทะลุ 2 พันล้านบาท เทียบกับปี 57 มีกำไร 1.60 พันล้านบาท แถมยังติดปลายนวมด้วยปันผลอีก 0.65 บาทต่อหุ้น วานนี้ถึงเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 27.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 8.80% วอลุ่มอื้อซ่าแบบนี้ มีลุ้นขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่ระดับ 30 บาทนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ ADVANC หากฟอร์มตัวแบบนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง “โมนิก้า” มีความเชื่อว่า หุ้นจะทะยานขึ้นไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 190 บาทในไม่ช้า ซึ่งเป็นผลมาจากแรงซื้อมีเข้ามาตลอดทั้งวัน จนดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 168 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 2.80 พันล้านบาท สวนทางกับบรรยากาศโดยรวมที่ปิดแดงโร่กันถ้วนหน้า คุณพี่คิดว่า หุ้นตัวนี้มีดีอะไรไหมล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของป๊อกกี้ PK พยายามทวนกระแสตลาดขาลงตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.34 บาท บวกไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 560 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่เล่นกับความเชื่อมากกว่าประเด็นอื่นๆ เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้ ไม่ต่างอะไรไปจากสิ่งที่เคยเห็นในเดือนพ.ย. 58 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจุดพลุแถว 4 บาท แล้วดันขึ้นไป 5 บาท ต่อจากนั้นปล่อยให้ร่วงมาที่ 3.50 บาทนะนายจ๋า

*อีกหนึ่งตัวที่มีทรงคล้ายกัน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ COM7 หลังโดนถล่มอย่างหนักหน่วงมาหลายวัน วานนี้ก็ยังโดนกดลงมาอีกจนได้แบบนี้ ทิศทางไม่ค่อยโสภาสถาพรแล้วนะเนี่ย..ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 5 วันหุ้นขึ้นไปยืนอยู่ที่ 6.85 บาท ขณะที่วันนี้หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 5.80 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 8.70% วอลุ่มทิ้งอื้อซ่า มันทำให้เดี๊ยนมองไปที่แนวรับ 5.20 บาทในทันที..จริงหรือไม่  ได้รู้กันเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ TKN ก่อนหน้านี้วางตัววางทรงมาค่อนข้างดี เผลอแป๊บเดียวหุ้นลงมากองอยู่ที่ 9 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 5.30% ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์หุ้นยืนอยู่ที่ 10.50 บาท มันเป็นไซเคิลที่ไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ บวกกับสัญญาณเทคนิคหลายตัวโค้งลงเหมือนกันหมด “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับรอให้แรงเทขายสะเด็ดน้ำเสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยเข้าไปรับดีกว่านะคะ

*ตบท้ายกันที่หุ้น SUPER สักหน่อยดีกว่า! ก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” อาจหลงใหลได้ปลื้ม “ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก” แต่วันนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว? หลังมีข่าวจากกรมข่าวเม้าท์ออกมาในทำนองว่า ยังไม่มีการต่ออายุใบอนุญาต! เดี๊ยนเลยเกิดอาการสะดุ้งโหยง กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งไปทุกส่วน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของบริษัท ก็เลยไม่รู้ว่า เรื่องนี้มีส่วนทำให้หุ้นรูดลงมาปิดที่ 1.22 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่า 460 ล้านบาท มากน้อยขนาดไหน?

Back to top button