วิตกสต็อกพุ่งฉุดราคาน้ำมันดิบปิดร่วง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดร่วง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิด (11 ก.พ.) ที่ 26.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลบ 78 เซนต์ หรือ 2.5% ปิดที่ 30.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 65 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า อิหร่านประกาศตั้งราคาขายน้ำมันให้แก่ลูกค้าในเอเชียโดยต่ำกว่าซาอุดิอาระเบียเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และบ่งชี้ว่าอิหร่านพร้อมที่จะตัดราคาเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดที่หายไปในช่วงที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร
ทั้งนี้ อิหร่านเสนอราคาน้ำมันดิบเพื่อการส่งมอบเดือนมี.ค.ต่ำกว่าน้ำมันดิบอาหรับมีเดียมของซาอุดิอาระเบีย 10 เซนต์/บาร์เรล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ อิหร่านมักตั้งราคาเท่ากับน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ที่ผ่านมา อิหร่านยืนกรานว่าจะไม่มีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยจะเพิ่มการผลิตเพื่อชดเชยโควตาที่ขาดหายไปในช่วงที่ถูกคว่ำบาตร
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า ภาวะอุปทานล้นตลาด และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน บ่งชี้ว่าราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับต่ำจนถึงครึ่งปีหลังนี้ “ความเสี่ยงของการขยายตัวของจีน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง เกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคาดไว้ เราคาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงแกว่งตัวระหว่าง 20-40 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีความผันผวนในระดับสูง และราคาปรับตัวไร้ทิศทางจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีนี้” โกลด์แมน แซคส์กล่าว