BBL บวกต่อ 2% เก็งกำไรรับกำไรปี 67 โต 9% แตะ 4.5 หมื่นล้าน โบรกเคาะเป้า 185 บาท

BBL บวก 2% หลังโชว์กำไรปี 67 โต 9% แตะ 4.5 หมื่นล้านบาท รับรายได้ดอกเบี้ย-ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ด้านโบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 185 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (22 ม.ค.68) ราคาหุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ณ เวลา 10:55 น อยู่ที่ระดับ 154.50 บาท บวก 3.00 บาท หรือ 1.98% สูงสุดที่ระดับ 154.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 152.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 740.46 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น BBL ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตอบรับรายงานผลการดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิ 45,211 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 41,636 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ และอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ สุทธิกับต้นทุนเงินรับฝากที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 3.06 สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน ซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด

ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากธุรกิจบัตรเครดิต และบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวมที่ยังคงเติบโตดี สำหรับค่าใช้ข่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และค่าใช้จ่ายทางการตลาด โดยธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 48.0 ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารมีการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาส 4 ปี 2567 ธนาคารจึงตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงจากไตรมาสก่อน ส่งผลให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาคว่าจะเกิดขึ้นสำหรับปี 2567 มีจำนวน 34,838 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน

ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่าในบทวิเคราะห์ว่า กำไรสุทธิของ BBL ในไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท ลดลง 17% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าประมาณการตลาดรวม (consensus 2%) และดีกว่าประมาณการฝ่ายวิเคราะห์ที่ 11% เนื่องจาก NII เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ และ คชจ.สำรองฯ (credit cost) ต่ำเกินคาด กำไรที่ลดลง เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงตามฤดูกาลในไตรมาสสุดท้าย และ กำไรจาก FVTPL ที่ลดลง ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้นขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นเพราะฐานต่ำจากผลขาดทุน FVTPL ในไตรมาส 4/66 ทั้งนี้ กำไรสุทธิปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.52 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เพราะกำไรจาก FVTPL แข็งแกร่ง และ NIT เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” BBL ประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 185 บาท

Back to top button