R&I คงอันดับความน่าเชื่อถือไทย A- มองเศรษฐกิจปี 68 ยังแกร่ง
“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” เผย R&I คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ A- คาดเศรษฐกิจปี 68 ขยายตัวตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ม.ค.68) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
R&I คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2568 อันเป็นผลจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาคการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การขาดดุลทางการคลังจะยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง แต่จะเริ่มทยอยลดลงตั้งแต่ปี 2569 จนอยู่ที่ 3% ในปี 2572 ซึ่งเป็นผลส่วนหนึ่งจากการดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ R&I เชื่อว่า รัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการหนี้สาธารณะ เพื่อรักษาระดับหนี้สาธารณะไม่ให้เกินกรอบกฎหมายที่กำหนด อีกทั้งหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นการออกพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ ซึ่งตลาดการเงินยังคงมีสภาพคล่องสูงเพียงพอที่จะสามารถรองรับการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มสูงขึ้น จึงไม่มีความเสี่ยงในการจัดหาแหล่งเงินทุนของภาครัฐ
ภาคการเงินต่างประเทศมีความแข็งแกร่งและทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ 2.5% ต่อ GDP ในปี 2567 และคาดว่าในปี 2568 ดุลบัญชีเดินสะพัดจะยังคงเกินดุลอยู่ในระดับเดียวกันที่2.5% จากการมีเสถียรภาพของราคาพลังงาน และการเติบโตของรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้า
ปัจจัยสำคัญที่ R&I จะติดตามสำหรับพิจารณาการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของไทย คือ การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงวัยที่อาจจะส่งผลต่อภาระค่าใช้จ่ายของเงินงบประมาณ และมาตรการสนับสนุนการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่และการยกระดับมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการรักษาเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ