CGSI ชู BBL ท็อปพิก “กลุ่มแบงก์” อัพ EPS ปี 68-69 ขึ้น 2.5% เคาะเป้า 193 บาท

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BBL ชูหุ้นท็อปพิกกลุ่ม ปรับประมาณการ EPS ปี 68-69 ขึ้น 1.3-2.5% เคาะเป้า 193 บาท ส่วน SCB ปันผลเด่น แนะซื้อเป้า 130 บาท


ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ไตรมาส 4/67 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL มีกำไรสุทธิ 1.04 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.4% จากปีก่อน แต่ลดลง 16.6% จากไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ และ Bloomberg consensus โดย BBL ทำกำไรสุทธิทั้งปี 67 ที่ 4.52 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากปีก่อน

ทั้งนี้ BBL มีกำไรก่อนตั้งสำรอง (PPOP) ไตรมาส 4/67 เติบโต 13.2% จากปีก่อนหน้า แต่ลดลง 12.4% จากไตรมาสก่อน ขณะที่สินเชื่อเติบโตสูงขึ้น 0.8% จากปีก่อน และ 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า นำโดยเงินกู้ระยะยาวที่ปล่อยให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) เพิ่มขึ้น จากไตรมาสก่อน เป็น 3.11% จาก 3.06% ไตรมาส 3/67 นอกจากนี้มีอัตราส่วน NPL ลดลง จากไตรมาสก่อน เป็น 3.45% จาก 3.94% ในไตรมาส 3/67 และสำรองหนี้สูญลดลงจากไตรมาสก่อนเป็น 115bp คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นมากกว่าคาด จะทำให้ตลาดมองเชิงบวกและเปิดทางให้อัตราสำรองหนี้สูญของ BBL ลดลงในปี 68

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการ EPS ของ BBL ในปี 68 และ 69 ขึ้น 1.3-2.5% หลังปรับลดสมมติฐานอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้เป็น 47.9% และ 48.1% ตามลำดับ จาก 48.4% และ 49.3% แต่ปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของสินเชื่อในปี 68 และ 69 เหลือ 1.3-2.0% จากเดิม 3.5-3.7%

โดยยังแนะนำ “ซื้อ” BBL ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 193 บาท ลดลงจาก 195 บาท ซึ่งยังเท่ากับ P/BV 0.62 เท่าในปี 68 รวมทั้งมีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ NPL แข็งแกร่ง 308% และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงที่ 20.4% ในไตรมาส 4/67 โดย BBL เป็นหนึ่งในหุ้น Top pick ของกลุ่มธนาคาร

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สำหรับ SCB นั้น ทำกำไรสุทธิ 1.17 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากปีก่อน และ 7.0% จากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 4/67 ซึ่งสูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ 10.4% และสูงกว่า Bloomberg consensus 19% เนื่องจากอัตราสำรองหนี้สูญต่ำกว่าคาดที่ 162bp เทียบกับสมมติฐานที่ 180bp ดังนั้น SCB จึงมีกำไรสุทธิ 4.39 หมื่นล้านบาทในปี 67 หรือคิดเป็น 102% ของประมาณการทั้งปี โดยในไตรมาส 4/67 SCB มีสินเชื่อลดลง 1.0% จากปีก่อน และ 1.3% จากไตรมาสก่อน เพราะสินเชื่อ SME, สินเชื่อรถและพอร์ตสินเชื่อของบริษัท คาร์ด เอกซ์ลดลง

จากการประชุมนักนักวิเคราะห์ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 68 ประกอบด้วย อัตราการเติบโตของสินเชื่อ 1-3%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) 3.6-3.8% จาก 3.85% ในปี 67, อัตราการเติบโตรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ 2-4% จากลดลง 5.6% ในปี 67, อัตราสำรองหนี้สูญ 150-170bp จาก 176bp ในปี 67, อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ 42-44% จาก 42.3% ในปี 67 โดยเป้าหมายเหล่านี้ยังไม่รวมผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และน่าจะสะท้อนให้เห็นว่า SCB มีความระมัดระวังต่อการทำธุรกิจสินเชื่อ

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการ EPS ของ SCB ลง 0.1-5.1% ในปี 68-69 โดยประมาณการกำไรของ SCB ลดลงเนื่องจากปรับลดสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อเป็น 1-2% ในปี 68-69 จากเดิม 2-3% และปรับ NIM ลง 11-21bp นอกจากนี้ ยังปรับประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจาก 3.7% เป็น 3.1% และปรับอัตราการสำรองหนี้สูญลง 11bp ในปี 68-69

โดยยังแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายที่ 130 บาท ซึ่งจะเท่ากับ P/BV 0.88 เท่าในปี 68 มองว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 9.0-9.5% ต่อปีในปี 68-70 ยังน่าสนใจและ ROE น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.4-9.5% ในปี 68-70

Back to top button