พาราสาวะถี

ถือฤกษ์วันจันทร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เปิดที่ทำการพรรคแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ


ถือฤกษ์วันจันทร์ที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระ เปิดที่ทำการพรรคแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารวอยซ์ทีวีเดิม ถนนวิภาวดี-รังสิต ทักษิณ ชินวัตร ควง แพทองธารพร้อมพานทองแท้ ลูกสาวลูกชายนำทีมรัฐมนตรี แกนนำ และสมาชิกพรรคร่วมในพิธีคับคั่ง คึกคัก หลังจากนั้นในช่วงสายอุ๊งอิ๊งก็สวมหัวโขนนายกรัฐมนตรีกดปุ่มจ่ายเงินหมื่นบาทเฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปี จำนวนกว่า 3,000,000 คน รับตรุษจีน แต่ก็ไม่วายถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีหวังผลต่อการเลือกตั้ง ส.อบจ.กับนายก อบจ.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้หรือไม่

คิดกันไปได้ต่าง ๆ นานา มิติทางการเมืองเป็นเรื่องที่หาเหตุกันได้ไม่หยุดหย่อน อย่างไรก็ตาม โค้งสุดท้ายของการชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ.นั้น ทักษิณในฐานะผู้ช่วยหาเสียง จะขึ้นเหนือไปปราศรัยใน 3 จังหวัด ที่ถือเป็นฐานสำคัญของพรรคเพื่อไทยคือ เชียงราย ลำพูน และเชียงใหม่ โดยเฉพาะบ้านเกิดของอดีตนายกฯ นั้น หวังจะคว้าชัยแบบถล่มทลายเพื่อสร้างความมั่นใจ จากการที่เสียแชมป์เมื่อคราวเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมาให้กับพรรคก้าวไกล

คงหนีไม่พ้นถูกจับตาว่านอกเหนือจากการฉายภาพการเดินหน้านโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลแล้ว นายใหญ่จะทิ้งไพ่เด็ดอะไรทิ้งทวน เพื่อตอกย้ำ มัดใจให้คนเลือกผู้สมัครของเพื่อไทย ดูจากการจัดทัพขุนพลไปลงพื้นที่ศรีสะเกษแล้ว ต้องบอกว่าพื้นที่ไหนที่มีการแข่งขันสูง หรือถูกคู่แข่งแย่งชิงเก้าอี้ไปก่อนหน้า พรรคแกนนำรัฐบาลจะจัดกำลังชุดใหญ่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้สมัคร และแสดงพลังให้ประชาชนในพื้นที่เห็นว่า ถ้าเลือกคนของตัวเองแล้ว นี่คือของแท้ของจริง สามารถฝากผีฝากไข้ได้

ผลพวงจากการเลือกตั้งนายก อบจ.เที่ยวนี้ จากที่ทักษิณบอกว่ากับภูมิใจไทยหลังการแข่งขันจบยังคบกันเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ต้องดูว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ จะว่าไปหลายสนามในการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา ทาง อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าค่ายสีน้ำเงิน พร้อมทีมกุนซือต่างหมายมั่นปั้นมือว่าจะสามารถกวาดเก้าอี้ได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางภาคอีสาน แต่ปรากฏว่ากลับพ่ายแพ้คนของเพื่อไทยไปชนิดที่ไม่คาดคิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะลงทุน ลงแรงกันอย่างหนักหน่วงในช่วงร่วมรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ โดยที่พรรคของนายใหญ่เวลานั้นยังอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน

ดังนั้น เมื่อมายืนเป็นฝ่ายบริหารด้วยกัน การแข่งขันย่อมทำนายได้ว่า พรรคไหนจะกุมความได้เปรียบมากกว่ากัน ถึงกระนั้นก็ไม่วายที่พบว่ามีการเล่นเกมสาดโคลนเพื่อดิสเครดิตกันอยู่หลายแห่ง ยิ่งที่ศรีสะเกษ เห็นได้ชัดว่า มีการยกเอาประเด็นไล่หนูฆ่างูเห่ามาดักคอนายใหญ่ที่ไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง ดูเหมือนว่าจะทำให้เห็นเป็นฝีมือของพรรคฝ่ายค้าน แต่ความจริงต่างรู้กันการจัดตั้งม็อบแบบนี้เป็นสไตล์ของใคร คงจะเป็นประเด็นที่เก็บเอาไปถกกันในวงของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล

การขับเคี่ยวกันในสนาม อบจ. เน้นไปที่เก้าอี้นายก อบจ.นั้น พื้นที่ทางภาคเหนือ อีสานแทบจะฟันธงได้ว่าคนของพรรคไหนจะเข้าวิน ที่ได้ลุ้นเบียดกันชนิดหายใจรดต้นคอคงเป็นจังหวัดทางภาคตะวันออก ภาคกลางที่จะเป็นการช่วงชิงกันระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทย โดยมีก้างชิ้นโตคือพรรคประชาชน ส่วนพื้นที่ภาคใต้นั้น พรรคของเสี่ยหนูหวังจะเก็บเก้าอี้ให้ได้มากที่สุด เพื่อเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมงานที่ใจถึงพึ่งได้ และรู้จุดว่าควรจะเจาะตรงไหนจึงจะประสบผลสำเร็จ

ขณะที่ขาเก่าเจ้าประจำอย่างประชาธิปัตย์ ด้วยความที่ความเป็นปึกแผ่นของแกนนำไม่เหมือนเดิม และเกิดการแตกคอกันของระดับนำในพื้นที่ จึงทำให้ฐานเสียงสนับสนุนไม่เป็นเอกภาพ หลายจังหวัดนอกจากจะไม่สนับสนุนคนของพรรคแล้ว ยังไปช่วยถือหางคนของพรรคคู่แข่งอีกต่างหาก เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ ทำให้มองไปถึงการเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไป คนของพรรคเก่าแก่ที่เคยปักหลักเหนียวแน่นกันมาจะหายไปอีกไม่น้อย หลังจากที่ก่อนหน้าถูกดูดไปอยู่ทั้งพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ

พอการเลือกตั้งท้องถิ่นถูกนำไปผูกกับการเมืองระดับชาติ มันจึงทำให้มีการตามเก็บรายละเอียดทุกเม็ดทุกดอกเพื่อไม่ให้คู่แข่งใช้กลไกอำนาจที่มีมาสร้างความได้เปรียบได้ ประเภทไก่เห็นตีนงูย่อมรู้ทันว่าใครจะใช้กลยุทธ์แบบใดเพื่อเอาชนะคนของตัวเอง เหมือนที่ทักษิณไปพูดที่ศรีสะเกษ “ผมได้ข่าวว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถูกเรียกไปสั่งการนู่นนี่ ผมบอกว่าข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง ถ้าข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลาง ก็ตัวใครตัวมัน” เจาะจงกันแบบนี้ย่อมรู้ดีว่าหมายถึงใครที่เล่นไม่ซื่อ

หรืออีกนัยคือ เป็นการขู่กลับไปถึงพวกที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนข้าง หรือหันมาสนับสนุนคนของตัวเอง เรื่องของการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อต่อรองกับฝ่ายมีอิทธิพลในระดับพื้นที่นั้น ไม่ต้องบอกว่านายใหญ่ถนัดขนาดไหน ตั้งแต่ยุคไทยรักไทยมาแล้ว อยู่ที่ว่าหนนี้การที่ต้องมาเจอกับอดีตลูกน้องที่เคยทรยศนายมาแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์จำต้องหันมาจูบปากกัน จะสามารถแก้เกมตุกติกเพื่อให้คนที่พรรคแกนนำรัฐบาลถือหางก้าวไปสู่ชัยชนะได้หรือไม่

ส่วนองค์กรที่ดูแลการเลือกตั้งอย่าง กกต. แทบไม่ต้องไปคาดหวังว่าจะสามารถจัดการอะไรได้กับการทำความผิดใด ๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องซื้อเสียง หรือทุจริตที่ผู้สมัครเอาเปรียบคู่แข่ง จะบอกว่าไม่ทันเกมเลยก็ว่าได้ การอ้างกฎหมายวางกติกา วิธีการเอาผิดไว้เป็นอย่างดีแล้ว ก็เหมือนพวกนั่งทำงานในห้องแอร์แต่ไม่เคยไปสัมผัสกับสภาพปัญหาที่แท้จริง การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งก็เช่นกันหากรอรับแต่เรื่องร้องเรียน แล้วไปตรวจสอบทีหลังก็ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ ไม่มีทางที่จะจับได้ไล่ทันพวกนักเลือกตั้งแน่นอน

เป็นปัญหาตามฤดูกาลที่ยืดเยื้อมานาน และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทุกปี นั่นก็คือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ไม่ว่ารัฐบาลไหนย่อมหนีไม่พ้นที่จะถูกฝ่ายตรงข้ามหยิบยกมาเป็นประเด็นโจมตี ตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานแก้ไขสถานการณ์ รัฐบาลแพทองธารก็เช่นเดียวกัน ถูกรุกหนักถึงขนาดที่ไปประชุม WEF ที่สวิตเซอร์แลนด์ ยังต้องประชุมด่วนสั่งการทุกหน่วยงานผลักดันมาตรการทำให้ประชาชนเห็น ประชุม ครม.วันนี้ นายกฯ หญิงจะมีข้อสั่งการเพิ่มเติม รอดูว่าจะมีอะไรใหม่ หรือถูกกังขา โจมตีมากกว่าเดิม

อรชุน

Back to top button