LEO เด้ง 9% ขานรับ “ซีอีโอ” เก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่ม 2.65% ตอกย้ำธุรกิจแกร่ง

LEO เด้ง 9% รับ “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” ซีอีโอ LEO ผนึกกำลังซื้อหุ้นเข้าพอร์ตรวมกว่า 8.46 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 2.65% ตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 ม.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ณ เวลา 11:10 น. อยู่ที่ระดับ 2.96 บาท บวก 0.24 บาท หรือ 8.82% สูงสุดที่ระดับ 3.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.74 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.10 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นดีดกลับขึ้นมาตอบรับข่าว บริษัทขอแจ้งการซื้อขายหุ้นของ LEO ตามที่ได้ปรากฏในรายการซื้อขายหุ้น LEO ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) จำนวนรวม 8,469,700 หุ้น หรือคิดเป็น 2.65% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ LEO โดยรายการดังกล่าวเกิดจากการขายหุ้นโดยนายวิเศษ สิทธิสุนทรวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ LEO (ที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการ)

ทั้งนี้ LEO ได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ LEO ว่า การขายหุ้นใน LEO ครั้งนี้ เป็นการเสนอขายให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่เป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทและปัจจุบันเป็นคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท  และกลุ่มคณะกรรมการของบริษัทท่านอื่นๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่เป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทและเป็นคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท

1.1 นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ จำนวน 1,269,700 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 0.40 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

1.2 นางสาวศรีไพร เอกวิจิตร์ จำนวน 1,000, 000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 0.31 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และนายเมธา เอกวิจิตร์  (พี่ชายของ นางสาวศรีไพร เอกวิจิตร์)  จำนวน 1,0000,0000 หุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 0.31 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

2.กลุ่มคณะกรรมการของบริษัท

2.1 นายเสนีย์ แดงวัง จำนวน 1,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 0.31 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

2.2 นายธีระชัย เชมนะสิริ จำนวน 2,200,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 0.69 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

2.3. นายอภิชาต ลี้อิสสระนุกูล จำนวน 2,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 0.62 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด

โดยรายการดังกล่าวเป็นการตกลงระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อตามราคาปิดของหุ้นในวันที่ 23 มกราคม 2568 และมีส่วนลดเล็กน้อยสำหรับการซื้อบนกระดานรายใหญ่ (Big Lot Board) โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยแก้ไขปัญหาและทำให้หุ้นไม่ได้ถูกบังคับขายในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่เหมาะสม และยังเป็นความประสงค์ของผู้ถือหุ้นเดิมที่เป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทซึ่งต้องการรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมไว้ อีกทั้งยังการเป็นการรักษาเสถียรถาพของราคาหุ้น  เนื่องจากคณะกรรมการของบริษัทต้องการถือหุ้นและลงทุนในบริษัทในระยะยาว ซึ่งจะดีกว่าการที่หุ้นจะถูกบังคับขายในตลาดและอาจตกไปอยู่กับนักลงทุนที่ไม่ได้ต้องการลงทุนบริษัทในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การขายหุ้นของ LEO ในครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการและนโยบายการดำเนินธุรกิจของ LEO แต่อย่างใด  อีกทั้ง บริษัทฯ มีจุดแข็งจากความสามารถในการปรับตัวตามแนวโน้มตลาดและความต้องการของผู้บริโภค และให้ความสำคัญกับกิจกรรมและบริการโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ LEO ภายใต้คอนเซ็ปต์ “LEO Go Green” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ LEO ในฐานะผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์อย่างแท้จริง

ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นใหญ่ของ LEO ผมยืนยันว่ายังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความมั่นคงของบริษัทฯ และที่ผ่านมาการดำเนินธุรกิจของ LEO ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ให้บริการขนส่งโลจิสติกส์ครบวงจรชั้นนำของเมืองไทย มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง การขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรชั้นนำช่วยเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคง และแสดงถึงความพร้อมของบริษัทฯ ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว” นายเกตติวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button