ไม่มีอะไรใหม่!
ตลอดเดือน ม.ค. เดี๊ยนนอนครุ่นคิดทุกวันว่า ตลาดหุ้นไทยมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุนบ้างไหม?
ตลอดเดือน ม.ค. เดี๊ยนนอนครุ่นคิดทุกวันว่า ตลาดหุ้นไทยมีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุนบ้างไหม? และจนป่านนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนสักอย่าง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ดัชนีโรยตัวลงมานับตั้งแต่ปี 68 ซึ่งเห็นได้จากวันที่ 30 ธ.ค. 67 ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,400.21 จุด ต่อมาในวันที่ 1 ม.ค. 68 ดัชนีทรุดตัวลงมายืนอยู่ที่ระดับ 1,379.85 จุดแบบไม่ทันตั้งตัวพะย่ะค่ะ
นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา..ดัชนีก็เคลื่อนตัวในลักษณะไซด์เวย์ดาวน์มาตลอด ก่อนจะแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ในกรอบ 1,335-1,355 จุดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้อีฉันเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ตลาดหุ้นไทยไม่มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นจริง ๆ และทำให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ หันมาขายหุ้นเมื่อยกตัวสูงขึ้น หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ขายทุกช็อตเมื่อมีโอกาสทำกำไรระยะสั้นไงล่ะคะ
ประเด็นดังกล่าวถูกย้ำหัวหมุดด้วยมูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันที่ซบเซา และในระยะหลัง ๆ ก็ซื้อขายกันที่ระดับ 3 หมื่นล้านบาทเป็นส่วนใหญ่ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ กับภาวะตลาดหุ้นไทยที่เป็นอยู่ในเวลานี้ และเมื่อดูจากการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,343.19 จุด ลบไป 2.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.73 หมื่นล้านบาท ก็ทำให้อีฉันได้เรียนรู้อีกครั้งว่า ถ้าไม่ได้หวังอะไรเยอะแยะ..ก็ไม่ผิดหวังนะตัวเอง
ถ้าเมาท์ถึงเรื่องผิดหวังขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันไปดูหุ้น BH ที่ทิ้งตัวลงมาแบบไม่มีดิสเบรก จนมองไม่เห็นจุดเด้งอยู่ตรงไหน? ก็มาจากความกังวลผู้ป่วยตะวันออกกลางจะทยอยยกเลิกมารักษาที่ประเทศไทย เพราะดันมีเรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับงาบหัวคิว ส่งผลให้นักลงทุนสถาบันเทขายหุ้นทิ้งอุตลุด วานนี้จึงเห็นหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 173 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 766 ล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 2 ปี 8 เดือนเจ้าค่ะ
อีกรายที่ส่อแววทำโลว์ใหม่ในไม่ช้า หลังจากเพิ่งทำโลว์ใหม่ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน “โมนิก้า” ขอหันไปดูหุ้น CENTEL แบบเร่งด่วน เพราะการลงมายืนปิดที่ระดับ 28.50 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 143 ล้านบาท มันเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับโลว์ 28.25 บาทแบบนี้..เป็นใครก็ต้องวิตกจริตกันทั้งนั้น ผนวกกับหุ้นอยู่ในจังหวะไซด์เวย์ดาวน์พอดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปรับของนะตัวเอง
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น GLOBAL ที่ไหลลงมาเรื่อย ๆ โดยไม่มีวอลุ่มแบบนี้ น่าจะเป็นการสื่อให้ทุกคนรู้ว่า ไม่มีใครกล้าเข้าไปรับหุ้น จึงปล่อยให้ราคาหุ้นแห้งเหี่ยวลงทุกวัน แถมนักลงทุนทั่วไปรู้ดีว่า สภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวแบบนี้ มันกระทบกับกำไรของบริษัทเต็ม ๆ จึงฟันธงได้ทันทีว่า งบไตรมาส 4 ก็คงออกมาไม่ดี และงบไตรมาส 1 ปี 68 ก็คงไม่ดีเหมือนกัน ทำให้การยืนปิดที่ 11.30 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาทไม่น่าสนใจจ้า
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นใหญ่ที่โลกลืมอย่าง SPRC ขึ้นมาทันที เพราะราคาหุ้นไหลลงมาแบบไม่มีลิมิติ และยังทำโลว์ใหม่ให้เห็นเรื่อย ๆ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ การไหลลงในแต่ละวันมีวอลุ่มซื้อขายไม่เยอะ อีฉันจึงมองว่า นี่เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เพราะวันนี้ไม่มีใครมองเรื่องพื้นฐานเลย (BV 8.16 บาท) เพราะกลัวว่า ไตรมาส 4 ปี 67 จะขาดทุนยับ หุ้นถึงยืนปิดที่ 5.40 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาทเจ้าค่ะ
ในเมื่อสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจ “โมนิก้า” จึงอยากเอ่ยถึงหุ้นสุกี้เอ็มเค M เพื่อชี้ให้เห็นสภาพของการแข่งขันรุนแรง ส่งผลกระทบโดยตรงกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และสะท้อนมายังราคาหุ้นในกระดานที่อ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 18.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท และมีความเป็นไปได้ที่จะทำ all time low แบบนี้..เขาเรียกว่า หมดสภาพของจริง!
ปิดท้ายกันที่หุ้น MONO เพื่อชี้ให้เห็นอาการหลังจากเด้งรับข่าวดีเสร็จสรรพ ต่อจากนั้นก็ตามาด้วยแรงเทขายทำกำไรบานเบอะ จนหุ้นโงหัวไม่ได้สักทีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติของหุ้นที่รอวิ่งขึ้นรอบใหม่ เพราะสเต็ปถัดไปจะเป็นเรื่องของกำไรมาเยอะขนาดไหน? ซึ่งจะเป็นการชี้ชะตาว่า “ได้ไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้” วันนี้จึงขึ้นอยู่กับนักลงทุนมองการยืนปิดที่ระดับ 1.56 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลงไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31 ล้านบาท เป็นแบบไหน?..อิอิอิ
โมนิก้า: และทีมงาน