
“เฟด” คงดอกเบี้ย 4.25-4.50% เมินแรงกดดัน “ทรัมป์” เกมการเงินส่อเดือด!
มติที่ประชุม FOMC ของเฟด ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 4.25-4.50% แจงเหตุผล “เงินเฟ้อ” สหรัฐฯ ยังสูง สวนทาง “ทรัมป์” ที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ยทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) หรือ เฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 4.25% – 4.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
แถลงการณ์ของเฟด ระบุว่า อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดไม่รีบร้อนในการปรับนโยบายการเงินโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า นโยบายการเงินของเฟดอยู่ในสถานะที่เหมาะสม กับการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญอยู่
“ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่า นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะส่งผลอย่างไร และเฟดจะต้องใช้เวลาในการประเมินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่” พาวเวล กล่าวตอนหนึ่ง
ทั้งนี้แถลงการณ์ของคณะกรรรมการเฟดและการแสดงความเห็นของพาวเวล ไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้า
ขณะที่ แมทเธียส ไชเบอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Allspring Global Investments คาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ก่อนการประชุมในเดือนพฤษภาคม และคาดว่าปี 2568 เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ ในงาน World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25)เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ต้องการให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยทันที ซึ่งเป็นจุดยืนที่หนักแน่นตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (29 ม.ค.68) หลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด
โดย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 44,713.52 จุด ลดลง 136.83 จุด หรือ -0.31% ขณะที่ ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,039.31 จุด ลดลง 28.39 จุด หรือ -0.47% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,632.32 จุด ลดลง 101.26 จุด หรือ -0.51%