CGSI มอง SET “ไซด์เวย์” กรอบ 1,320-1,350 จุด ชูหุ้นเด่น SCB-WHA

CGSI มอง SET วันนี้ เคลื่อนไหวไซด์เวย์บริเวณ 1,330-1,360 จุด มองตลาดอยู่ช่วงขาลง รับแรงกดดันเดลต้า แนะหุ้นเด่น SCB-WHA


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (16 ม.ค.68) คาดการณ์ว่า SET Index จะเคลื่อนไหว Sideway บริเวณ 1,320-1,350 จุด โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าตลาดหุ้นไทยจะยังอยู่ในช่วงขาลง หากหุ้นขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อดัชนี SET อย่าง DELTA ยังคงเผชิญแรงกดดันจากกระแสการมาของ DeepSeek-AI ต้นทุนต่ำจากจีน รวมถึงคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4/67 ที่เราคาดว่าจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบของอัตราภาษีที่สูงขึ้นและการเติบโตของธุรกิจ Non-Data Centre ที่ค่อนข้างซบเซา

ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนติดตามนโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์เพิ่มเติม หลังการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา จะส่งผลให้หนึ่งในสินค้าหลักอย่างน้ำมันดิบมีราคาสูงขึ้นในสหรัฐ และอาจทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเพิ่มสูงขึ้นแทน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นในเอเชีย รวมถึงไทย

นอกจากนี้ ไทยอาจเผชิญกับปัญหาสินค้าจีนทะลักเข้ามาในไทย หลังทรัมป์ส่งสัญญาณขึ้นภาษีสินค้านำเข้ารวมถึงจีนด้วย อีกทั้ง สหรัฐยังเป็นตลาดส่งออกหลักของไทยและไทยมีการเกินดุลกับสหรัฐสูงขึ้น นับเป็นอันดับสองของอาเซียน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกของไทยอาจเผชิญความเสี่ยงจากภาษีศุลกากรของทรัมป์เช่นกัน

สำหรับปัจจัยในประเทศ ติดตามรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนธ.ค. ของไทย และ รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/67 เพิ่มเติมของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ในวันที่ 7 ก.พ.นี้

ขณะที่หุ้นแนะนำวันนี้ คือ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)หรือ SCB โดนมีกำไรสุทธิสูงกว่าประมาณการกำไรไตรมาส 4/67 ที่ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 10.40% เพราะมีอัตราการสำรองหนี้สูญต่ำกว่าคาดที่ 1.62% ในไตรมาส 4/67 ซึ่งเปรียบเทียบกับที่คาดไว้ 1.80% และเชื่อว่า SCB จะสามารถคงอัตราการจ่ายเงินปันผลไว้สูงถึง 80% เนื่องจากมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งและท่ามกลางบรรยากาศที่สินเชื่อที่อัตราการขยายตัวช้าในปี 68-69

(Take profit : 127.50 บาท / Stop loss : 124.50 บาท)

รวมทั้ง บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ยังคงแนะนำเข้าสะสมหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จาก Data Centre โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ 2,350 ไร่ ขณะที่ฝ่ายนักวิเคราะห์เล็งเห็น upside risk จากการขายที่ดินล็อตใหญ่ อีกทั้งบริษัทยังได้ตั้งเป้าโครงการใหม่ อยู่ที่ 200k ตรม. แต่จะลดการขายที่ดินให้กับ REIT เหลือ 70k ตรม. ในปี 68 ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์ยังแนะนำ “ซื้อ” เพราะธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งและกำไรสุทธิน่าจะเติบโตสูงขึ้นในปี 68

(Take profit ที่ 5.05 บาท / Stop loss ที่ 4.84 บาท

Back to top button