ดัชนี PSE ภาวะ “ตลาดหมี” รูด 29% เซ่น GDP ต่ำคาด-เงินเฟ้อพุ่ง

ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ (PSE) เข้าสู่ยุคตลาดหมี หลังรูด 3 เดือนติด ลดลง 28.86% เผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว และเผชิญภัยธรรมชาติ-เงินเฟ้อพุ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (31 ม.ค.68) ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ (PSE) กำลังเข้าสู่ ตลาดหมี (Bear Market) หลังตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างจต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ของวันทำการ ณ ตั้งแต่ 27 ตุลาคม 2567 ดัชนีอยู่ที่ระดับ 7554.86 จุด หลังจากนั้นปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด 31 ม.ค.68 อยู่ที่ 5862.59 จุด ปรับตัวลง 28.86% ปรับตัวลงในรอบ 3 เดือน

โดยดัชนี PSE ปรับตัวลงเป็นผลมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศที่ต่ำกว่าคาดการณ์ หลังได้รับผลกระทบจากพายุ และน้ำท่วม รวมถึงความกังวลอัตราเงินเฟ้อ

ขณะที่ หากย้อนกลับไปดูทิศทางเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า อัตราเงินเฟ้อ ฟิลิปปินส์ในเดือน ธ.ค.67 อยู่ที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย. 67 ที่มีอัตราอยู่ที่ 2.5% แต่อยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนธ.ค. 66 ซึ่งอยู่ที่ 3.9% ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค 67 มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีค่าใช้จ่ายในครัวเรือน, ค่าน้ำ, ค่าไฟ และค่าเชื้อเพลิง รวมทั้งการขยายตัวของค่าใช้จ่ายด้านนันทนาการกีฬา และวัฒนธรรม

นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (PSA) เปิดเผยข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ (GDP) ขยายตัว 5.2% ในไตรมาส 4/67 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์ได้คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 4 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 1.9%

ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของฟิลิปปินส์ที่มีอัตราการขยายตัวเท่ากับในไตรมาส 3 ได้ส่งผลให้การขยายตัวโดยรวมตลอดปี 67 อยู่ที่ระดับ 5.6% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ 6.0% – 6.5%

โดยทางการฟิลิปปินส์ ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์มาจากผลกระทบ อาทิ พายุไต้ฝุ่น ภัยแล้ง และปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งภัยพิบัติเหล่านี้ได้สร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรและทำให้อุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอลง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ปรับกรอบเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 68-71 ให้กว้างขึ้น โดยปรับเป็น 6.0% – 8.0% จากเดิมที่กำหนดกรอบไว้ที่ 6.5% – 7.5% สำหรับปี 68 และ 6.5% – 8.0% สำหรับปีปี 69-71 อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทั่วโลก

Back to top button