ผู้ถือหน่วย 3BBIF เฮ! เจรจาลดดอกเบี้ยลุล่วง ดันปันผลพุ่ง 10%

ผู้ถือหน่วย 3BBIF จ่อรับปันผลเพิ่ม 10% หลังกองทุนปรับโครงสร้างเงินกู้ยืม BBL เจรจาลดอัตราดอกเบี้ย MLR -2.90% พร้อมปลดประกันเส้นใยแก้วนำแสง 279,000 คอร์กิโลเมตร


นายพรชลิต พลอยกระจ่าง Managing Director Real Estate & Infrastructure Investment แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี (3BBIF) (กองทุน) ได้เข้าทำสัญญากู้ยืมเงิน กับ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ตามสัญญากู้ยืมเงินลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 (สัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ) และกองทุนได้นำทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง จำนวน 558,000 คอร์กิโลเมตร ไปเป็นหลักประกันทางธุรกิจเพื่อประกันการชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ

โดยกองทุนได้ทยอยชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย (อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MLR ซึ่ง ณ ปัจจุบัน MLR เท่ากับ ร้อยละ 6.9) ตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพเรื่อยมาจนกระทั่ง ณ สิ้นปี 2567 เหลือต้นเงินกู้จำนวน 10,900,000,000 บาท นั้น

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนขอเรียนให้ทราบว่า กองทุนได้ทำการปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือกับ BBL โดยกองทุนได้กู้ยืมเงินจาก ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) (ซึ่งมิใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกับบริษัทฯ) มาชำระหนี้เงินกู้ยืมคงเหลือให้แก่ BBL บางส่วนก่อนกำหนดมีรายละเอียด ดังนี้

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 บริษัทฯ ได้ดำเนินการให้ กองทุนเข้าทำสัญญากู้ยืมเงิน กับ SMBC (สัญญากู้ยืมเงิน SMBC) มีเงินกู้ จำนวน 5,450,000,000 บาท และอัตราดอกเบี้ย THOR เพิ่ม 0.98% กองทุนได้เบิกเงินกู้จำนวนดังกล่าวมาชำระหนี้ ให้แก่ BBLก่อนกำหนด ในวันที่ 31 มกราคม 2568

ทั้งนี้ BBL ได้ปลดหลักประกันทางธุรกิจทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจำนวน 279,000 คอร์กิโลเมตรให้กองทุนและกองทุนจะนำหลักประกันทางธุรกิจทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง จำนวน 279,000 คอร์กิโลเมตรที่ธนาคารกรุงเทพปลดให้ดังกล่าวไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมตามสัญญากู้ยืมเงิน SMBC ต่อไป เมื่อกองทุนได้ชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ BBL บางส่วนก่อนข้างต้นแล้ว BBL ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้คงเหลือลงจากเดิม MLR เหลือ MLR -2.90%

โดยในการชำระหนี้ให้แก่ BBL ก่อนกำหนดดังกล่าว กองทุนได้ชำระดอกเบี้ยคำนวณจน ถึงวันที่ 30 มกราคม 2568 เป็นเงิน 65,937,534.25 บาท และชำระค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนดในอัตราร้อยละ 3 ของจำนวนเงินกู้คิดเป็นเงิน 163,500,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญากู้ยืมเงิน BBL

สำหรับการกู้ยืมเงินจาก SMBC นั้น กองทุนได้ชำระค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ (Front-end Fee) จำนวน 38,150,000 บาท ให้แก่ SMBC โดยกองทุนได้นำกระแสเงินสดของกองทุนไปชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนด และค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ดังกล่าว

ขณะที่ จากการปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนที่กล่าวข้างต้น กองทุนเหลือเงินกู้ค้างอยู่กับ BBL จำนวน 5,450,000,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย MLR –2.90% และมีหนี้เงินกู้อยู่กับ SMBC จำนวน 5,450,000,000 บาท มี อัตราดอกเบี้ย THOR + 0.98% รวมเป็นเงินกู้ทั้งสิ้น จำนวน 10,900,000,000 บาท การปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของ กองทุนนี้ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของกองทุนลดลง ซึ่งเป็นไปเพื่อประโยชน์และความยั่งยืนในระยะยาวของกองทุน

อย่างไรก็ตาม จากการที่ 3BBIF ปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือกับธนาคารกรุงเทพสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารกรุงเทพมีการได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้คงเหลือลงจากเดิม MLR เหลือ MLR – 2.90% ผลดังกล่าวส่งผลให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนของ 3BBIF ปรับตัวขึ้นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10%

Back to top button