ASW แกร่งทุกมิติ!
เป็นหนึ่งในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ทำผลงานเติบโตโดดเด่นในภาวะตลาดอสังหาฯ ที่ฟื้นตัวจำกัด สำหรับ ASW ดูได้จากผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน
คุณค่าบริษัท
เป็นหนึ่งในหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ทำผลงานเติบโตโดดเด่นในภาวะตลาดอสังหาฯ ที่ฟื้นตัวจำกัด สำหรับบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ดูได้จากผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2567 ที่มีกำไรสุทธิ 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 608.24 ล้านบาท และสูงกว่าปี 2566 ทั้งปีที่มีกำไรสุทธิ 1,092.22 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 7,633.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 4,539.55 ล้านบาท
ที่น่าจับตา ในช่วง 11 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-พ.ย.) ASW สามารถทำยอดขายสะสมได้ 17,874 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายสถิติใหม่ของบริษัท และเกินกว่าเป้าหมายปี 2567 เป็นที่เรียบร้อย โดยโครงการที่สร้างยอดขายโดดเด่นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ได้แก่ 1) เดอะ ไทเทิล เซียโล่ ราไวย์ (THE TITLE CIELO RAWAI) โครงการ Leisure Condominium มูลค่า 1,200 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ
2) อควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) โครงการคอนโดมิเนียมสไตล์ Luxurious Staycation Residence ใกล้ชายหาดจอมเทียน มูลค่า 5,000 ล้านบาท และ 3) เควาลอน (KAVALON) โครงการแคมปัสคอนโดใหม่ล่าสุดชิดรั้ว ม.กรุงเทพ มูลค่า 4,500 ล้านบาท
โดยในปี 2567 ASW เปิดโครงการใหม่ 13 โครงการ มูลค่าทั้งหมด 36,860 ล้านบาท มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 ประมาณ 23,070 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2569
การเติบโตของ ASW ถูกขับเคลื่อนผ่าน 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) กระจายโปรดักส์ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุมในหลายเซกเมนต์ รองรับความต้องการของผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน 2) กระจายแบรนด์ ต่อยอดแบรนด์เดิมที่มีความแข็งแกร่งอย่างแคมปัสคอนโดแบรนด์ เคฟ (KAVE) และแตกแบรนด์ใหม่เพื่อสะท้อนคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างในแต่ละโครงการ เช่น แบรนด์อควารัส (Aquarous) คอนโดมิเนียมใกล้ชายหาด หรือแบรนด์ฌาน (CHANN) บ้านเดี่ยวสำหรับพักตากอากาศริมแม่น้ำ
และ 3) กระจายทำเล พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และขยายสู่ทำเลหัวเมืองท่องเที่ยวหลังการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว โดยเฉพาะทำเลภูเก็ต ซึ่งมีแบรนด์เดอะ ไทเทิล (THE TITLE) เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างยอดขายและรายได้ของบริษัทในปี 2567
บล.หยวนต้า ระบุว่า โครงการของ The Title ใน จ.ภูเก็ต จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเติบโตของผลประกอบการ ASW ในปี 2568-2569 จาก 1) ทีมการขายแข็งแกร่ง มีฐานลูกค้าต่างชาติและมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มส่วนแบ่งในตลาด จ.ภูเก็ต ได้อย่างต่อเนื่อง 2) Backlog หนาแน่นกว่า 8.3 พันล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 36% ของ Backlog รวม) 3) กลุ่มลูกค้าหลักคือชาวต่างชาติที่บริษัทฯ มีการเก็บเงินอย่างรัดกุม ทำให้อัตราการยกเลิกต่ำ และ 4) ไม่ได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ และภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ
โดยปี 2568 คาดผลประกอบการเติบโต 10% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมี Backlog รองรับคิดเป็น Secure Revenue 73% ของประมาณการรายได้
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น ASW ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 3.91 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.51 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 0.91 เท่า ก็ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.34 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 10.87 บาท จากราคาต่ำสุด 10.30 บาท และราคาสูงสุด 11.50 บาท