3 ปี 3 ครั้ง..เละตลอด

ในที่สุดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยก็เละเทะไม่มีชิ้นดีอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่อีฉันพอทำใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะของมันเห็นกันทนโท่


ในที่สุดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยก็เละเทะไม่มีชิ้นดีอีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่อีฉันพอทำใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันจะเห็นทุนจีนบุกประเทศไทยหนักมาก จนร้านรวงต่าง ๆ พากันทยอยปิดกิจการ แต่รัฐบาลกลับอยู่ในอาการนิ่งเป็นสากกะเบือ ไม่ยอมขยับตัวทำอะไรสักอย่างแบบนี้..มันก็บรรลัยกันถ้วนหน้าสิคะ

โดยประเด็นดังกล่าวก็เชื่อมโยงโดยตรงกับตัวเลข GDP ที่อยู่ในระดับ 2-3% เป็นเวลาหลายปี ซึ่งรวมถึงธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเข้าพลิกโฉมประเทศไทย..ก็ไม่มี! ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยไม่เซ็กซี่เหมือนเมื่อก่อน ขณะเดียวกันก็มีเรื่องร้าย ๆ ผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ส่งผลให้นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ หาจังหวะขายหุ้นมากกว่าซื้อหุ้น ผลลัพธ์ที่ออกมาเลยเละเทะเหมือนอย่างที่เห็น และเมื่อนับเฉพาะ ม.ค. ย้อนหลังไป 3 ปี..บอกได้เลยว่า ดูไม่จืดจ้า

เนื่องจากปี 66 ดัชนีบวกไปแค่ 3 จุด ส่วนในปี 67 ดัชนีลบลงไปถึง 50 จุด ขณะที่ปี 68 ดัชนีร่วงลงไปถึง 80 จุด ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้รู้ว่า ปรากฏการณ์ “January effect” มันไม่มีอยู่จริง “โมนิก้า” เลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,314.50 จุด ลบไป 21.14 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.34 หมื่นล้านบาท คือสิ่งบอกให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังถอยหลังลงคลอง ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้อีฉันเจ็บปวดสุด ๆ นะจะบอกให้

สำหรับหุ้นตัวใหญ่บิ๊กเบิ้ม “โมนิก้า” คงไม่มีคำไหนจะเอ่ยถึง เลยขอมองไปที่หุ้นแถวสองที่กำลังโดนรุมกระหน่ำหนักอย่าง GLOBAL หลังถูกเทกระจาดโครมเดียวลงมาปิดที่ระดับ 10 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 11.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 681 ล้านบาท ก็รู้ได้ทันทีว่า หุ้นตัวนี้มีประเด็นเกี่ยวกับผลงานไม่เป็นไปตามเป้า บรรดานกรู้ถึงหนีตายกันจ้าละหวั่น และมีสิทธิ์ที่จะไหลลงต่อนะจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น DOHOME ก็ถูกทิ้งโครมเดียวลงปิดที่ระดับ 7.35 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 7.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 176 ล้านบาท พร้อมกับแสดงอาการจะทรุดตัวลงไปอีกแบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้คำเดียวว่า อยู่นิ่ง ๆ น่าจะเซฟกว่า! เพราะสิ่งที่ทุกคนรับรู้มาตลอดคือ คนไม่มีเงินไปช้อปของใช้ และอีกอย่างที่สำคัญคือ วันนี้หุ้นยังเทรดบน PE 36 เท่า จึงทำให้หุ้นตัวนี้เสี่ยงเกินไปที่จะเข้าไปเล่นในตอนนี้นะคะ

ขนาดหุ้นสินเชื่อรายย่อยอย่าง CREDIT ที่ปล่อยเงินกู้ให้กับแผงพ่อค้าแม่ค้า ยังถูกขายออกมาแบบงง ๆ ทั้งที่ตอนนี้หุ้นเทรดบน PE 7 เท่า เดี๊ยนเลยอยากถามแฟนคลับคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะการยืนปิดที่ระดับ 19 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.43 ล้านบาท มันบอกเป็นนัยให้รู้ว่า ไม่มีใครกล้าเข้าไปช้อนหุ้น ถึงปล่อยให้หุ้นร่วงลงด้วยมูลค่าการซื้อขายที่บางเฉียบเจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ BGT ยืนซึมด้วยวอลุ่มแห้ง ๆ แบบหมดอาลัยตายอยากไปเสียแล้ว ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกันว่า หุ้นจะกลับมาดีกี่โมง? เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับราคาหุ้นตัวนี้มีแต่คำว่า ลงลูกเดียว! แต่โชคดีหน่อยที่ตอนนี้ไม่อ่อนไหวตามภาวการณ์ลงทุน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับช่วยประเมินการยืนปิดที่ปิดที่ระดับ 17.40 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18 ล้านบาท ยังน่าสนใจอ๊ะป่าว?

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น ICHI ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจในแง่พื้นฐาน โดยเฉพาะในมุมของการเทรดบน PE 12 เท่า และยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ระดับ 7% ก็เป็นจุดที่ชี้ให้เห็นว่า ราคาหุ้นไม่ควรอ่อนตัวลงไปมากกว่านี้ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจ สภาพอากาศ และสภาพตลาดหุ้น เดี๊ยนเข้าใจที่หุ้นซึมลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะปิดที่ระดับ 12.70 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103 ล้านบาทเจ้าค่ะ

เรื่องข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น MEGA เป็นรายถัดมา เพราะตั้งแต่หมดโควิด และผู้คนมีทางเลือกในการซื้อวิตามินมากขึ้น ก็ทำให้หุ้นตัวนี้ค่อย ๆ หมดเสน่ห์ลงอย่างช้า ๆ เดี๊ยนเลยสงสัยว่า การยืนปิดที่ระดับ 31.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาทอาจไม่ใช่ก้นเหวของเที่ยวนี้กระมัง! เพราะเดี๊ยนเห็นราคาหุ้นทำโลว์ใหม่ให้เห็นเรื่อย ๆ นะนายจ๋า!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button