“สุรเกียรติ์” เสนอตั้งเอกชน เป็นผู้แทนพิเศษ เจรจา “ทรัมป์” รับมือสงครามการค้า
"สุรเกียรติ์ เสถียรไทย" เสนอรัฐบาล ตั้งเอกชนที่เชี่ยวชาญ เป็น "ผู้แทนพิเศษ" เจรจา "ทรัมป์" ผู้นำสหรัฐฯ รับมือสงครามการค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงาน Chula Thailand President Summit 2025 จัดขึ้น ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ “Future Thailand: The Comprehensive View” ว่า ความเสี่ยงในด้านสงครามการค้า (Trade War) หากสหรัฐฯ มีการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้า
ผลต่อประเทศไทย คือ ถ้าขึ้นภาษีสินค้าจีน สินค้าจีนจะต้องกระจายไปต่างประเทศ ทางหนึ่งอาจเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งต้องเตรียมรับมือว่าจะต่อต้านหรือเข้าร่วมอย่างไร
ทิศทางอนาคตของประเทศไทยที่สำคัญจึงเป็นการวางจุดยืนทางการเมืองและยุทธศาสตร์ ทั้งภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะการเจรจาร่วมกับสหรัฐฯ
หากภาครัฐ เอกชน นักวิชาการและภาคประชาสังคมไม่ร่วมมือกันจะมีความอันตรายมาก เพราะการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ จะเป็นการเจรจาข้ามภาค ไม่ได้เป็นเพียงการเจรจาในด้านภาษีอย่างเดียวแล้ว ทำให้ประเทศไทยจะมีความอลหม่านมาก ภาคเอกชนจะแตกกัน เพราะผลประโยชน์ต่างกัน รัฐบาลก็จะมีปัญหาในการทำงานให้เป็นเอกภาพ เพราะรับผิดชอบกันคนละกระทรวง ซึ่งแต่ละกระทรวงก็มาจากพรรคการเมืองคนละพรรคด้วย
โดยสิ่งที่ต้องทำ คือ “แต่งตั้งผู้แทนพิเศษของรัฐบาล” ไปทำหน้าที่ในการเจรจาหารือในแต่ละประเทศและแต่ละเรื่อง ตามที่ต้องการ ซึ่งเคยทำมาแล้วในอดีต อาทิ ด้านพลังงาน สุขภาพต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเรื่องที่ต้องหารือในสหรัฐฯ มีกรรมาธิการ (กมธ.) เฉพาะเพื่อดูแลในแต่ละกลุ่ม ประเทศไทยจึงต้องตั้งผู้แทนพิเศษเหล่านี้ในการเข้าไปหารือแต่ละสาย อาทิ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นตัวแทนไปหารือในด้านต่าง ๆ อย่างการเกษตร เป็นต้น