AMATA มั่นใจยอดขายที่ดินปี 68 พุ่งเกิน 2.5 พันไร่ รับ “จีน” ย้ายฐานผลิตเข้าไทย
AMATA ลั่นยอดขายที่ดินปี 68 พุ่งเกิน 2,500 ไร่ รับอานิสงส์จีนย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทยมากขึ้น ผนึก 6 หน่วยงานรัฐเปิด “Government All-Service Center” ในนิคมฯ อมตะซิตี้ ชลบุรี เพิ่มความสะดวกให้นักลงทุน
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ยอดขายที่ดินในปี 2568 จะเติบโตขึ้นจากปี 2567 ที่ทำได้มากกว่า 2,500 ไร่ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจีนที่จะย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะมีการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนจีนมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ โดย AMATA ได้มีการเตรียมความพร้อมในการขยายพื้นที่ต่อเนื่อง
ขณะที่ล่าสุดวานนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2568) AMATA ได้ร่วมมือกับ 6 หน่วยงานรัฐ ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน สำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จให้บริการผู้ประกอบการแบบครบวงจร (Government All-Service Center ) อย่างเป็นทางการ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี เพื่อเพิ่มความสะดวกในการให้บริการกับนักลงทุนที่เข้ามา และเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกที่จัดตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อมุ่งยกระดับการให้บริการครบวงจร กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ลดขั้นตอน อุปสรรคในการขอใบอนุญาตต่าง ๆ เพิ่มความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในพื้นที่ EEC พร้อมดึงนักลงทุนสู่ฐานผลิตสำคัญของประเทศ
“การจัดตั้งศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ เป็นกลไกที่สำคัญที่จะเอื้อต่อการลงทุน เพราะพื้นที่การลงทุนในภาคตะวันออก มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจประเทศ ทั้งการนำเข้า และส่งออกสินค้า นับเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของภูมิภาค ดังนั้น การอำนวยความสะดวกในด้านการขอใบอนุญาตต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ ให้สอดรับกับภาวะการแข่งขัน และยังคงรักษาขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศได้” นายวิกรม กล่าว
สำหรับ “Government All-Service Center” ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านการอนุมัติ และอนุญาต จากหน่วยราชการที่มีประสิทธิภาพ สู่การพัฒนาประเทศในยุคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัยอย่างแท้จริง
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การดำเนินงานของศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จแบบครบวงจร (Government All-Service Center ) เป็นความร่วมมือของ 6 องค์กร เพื่อยกระดับการให้บริการ อำนวยความสะดวก ต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่เข้ามาติดต่อหน่วยราชการ โดยจะสามารถใช้บริการผ่านศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จฯ ทั้งในด้านการขอใบอนุญาต การยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์ การขออนุญาตนำเข้า และส่งออก เป็นต้น ที่จะครอบคลุมการให้บริการในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นศูนย์ฯ แห่งแรกที่จัดตั้งใน จ.ชลบุรี โดยจะเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสถานประกอบการด้านอุตสาหกรรมจำนวนมาก
ดังนั้น ศูนย์ดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือ และกลไกสำคัญในการผลักดันให้เกิดการลงทุน เพื่อให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน นับเป็นการสนับสนุนภารกิจของกระทรวงอุตสาหกรรมภายใต้นโยบาย “การปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจใหม่” ที่มีเป้าหมายให้เศรษฐกิจไทยมีความสะอาด สะดวก และโปร่งใสมากยิ่งขึ้น จึงเป็นก้าวสำคัญในการให้บริการสำหรับผู้ประกอบการและประชาชนที่เข้ามาติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ลงทุนจ.ชลบุรี
“ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ เป็นการยกระดับบริการให้กับผู้ประกอบการที่สามารถลดระยะเวลากับหน่วยราชการในขั้นตอนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ทำให้เกิดความเชื่อมั่นกับนักลงทุนที่จะเข้ามาใช้พื้นที่ใน EEC เพื่อการลงทุน ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการผลิตในการวางระบบการบริหารจัดการด้านการติดต่อหน่วยงานราชการให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอดีตอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ทำให้สูญเสียโอกาสในการลงทุนของผู้ประกอบการ” นายเอกนัฏ กล่าว
ส่วนนายพรรษา ใจชน ผู้จัดการฝ่ายประสานงานราชการและนิติกรรม AMATA เปิดเผยว่า แนวทางการบริหารจัดการศูนย์ Government All-Service Center จะมุ่งเน้นการให้บริการและรองรับกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป เพื่อสอดคล้องกับปรัชญา “All Win” ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม AMATA
“ปัจจุบันศูนย์บริการราชการ พร้อมให้บริการผ่าน 6 หน่วยงานหลัก และในอนาคต AMATA มีแผนขยายการให้บริการเพิ่มเติม โดยเชิญหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อสังคมเข้ามาให้บริการภายในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจและประชาชนได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายพรรษา กล่าว
อย่างไรก็ตาม นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยมีผู้ประกอบการมากกว่า 1,500 ราย เข้าดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการให้บริการที่มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนรองรับนักลงทุนใหม่ที่เล็งเห็นศักยภาพของ AMATA ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้พื้นที่แห่งนี้เติบโตเป็นศูนย์กลางธุรกิจและอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งได้ในอนาคต