CGSI มอง SET ไซด์เวย์ นลท. จับตาภาษีศุลกากรทรัมป์ แนะลงทุน SCB- PIN

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน เปิดในแดนลบก่อนพุ่งขึ้นพลิกกลับมาปิดบวก โดยมีแรงสนับสนุนจากหุ้น Palantir ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 24% ขานรับผลประกอบการไตรมาส 4/67 (รายได้รวม 828 ดอลลาร์/m เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 14% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่รายได้ในสหรัฐอย่างเดียว เพิ่มขึ้น 52% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ) และคาดการณ์รายได้ ไตรมาส 1/2568 รวมถึงปี 2568 สูงกว่าตลาดคาด เป็น Sentiment บวกให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่ม Big Tech

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตารายละเอียดเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของทรัมป์ หลังล่าสุดรัฐบาลจีนประกาศตอบโต้สหรัฐขึ้นภาษีในอัตรา 15% สำหรับการนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐ และเก็บภาษี 10% สำหรับน้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร และรถยนต์บางประเภท มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.

ทั้งนี้ความกังวลจากผลกระทบสงครามการค้า ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ร่วงลง 0.6% แม้จะมีรายงานว่าทรัมป์ได้ออกมาตรการเพื่อกดดันการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่ม OPEC ให้ลดลงเหลือ 0 ติดตาม EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบวันนี้

อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐเลื่อนการขึ้นภาษีหรือข้อตกลงทางการค้าร่วมกับแคนาดาและเม็กซิโก ชะลอการเรียกเก็บภาษีออกไป 1 เดือน ได้สร้างความหวังให้นักลงทุนว่ารัฐบาลจีนและสหรัฐก็อาจมีการเจรจาหารือเพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้านี้ลงได้

ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงผันผวนหลังรายงานตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนธ.ค. ลดลง 5.56 แสนตำแหน่ง มาที่ระดับ 7.6 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 8.01 ล้านตำแหน่ง บ่งชี้ถึงอุปสงค์ในตลาดแรงงานที่ลดลง แม้การประชุม Fed ล่าสุดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อสะท้อนตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้นก็ตาม

ดังนั้น ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐประจำเดือนม.ค. อื่นเพิ่มเติมวันนี้ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP และ ดัชนี PMI ภาคการบริการ

ทั้งฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า SET Index วันนี้ จะแกว่งตัวในกรอบ 1,280-1,315 จุด และ จับตาบริเวณ 1,300 และ 1,280 จุดโดยมองว่าตลาดน่าจะยังคงระมัดระวังการลงทุนลดความเสี่ยง จากความกังวลสงครามการค้าจีน-สหรัฐ

ฝ่ายวิเคราะห์จึงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่ม China Play (เช่น กลุ่มปิโตรเคมีที่อาจได้รับผลกระทบจากราคา PE ในเอเชียและสเปรดที่ลดลง) และ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นสินค้าส่งออกหลักของไทยไปยังสหรัฐ เนื่องจากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐ ทำให้ไทยอาจโดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเช่นกัน

อีกทั้งเชื่อว่าการตั้งกำแพงภาษีทั่วโลกของสหรัฐจะส่งผลให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แบบดั้งเดิมอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่อง โดยเราคาดว่า KCE จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับเม็กซิโกและยุโรป

ทั้งนี้ยังคงแนะนำการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางปัจจัยลบต่างประเทศที่ยังคงรุนแรงและมีความไม่แน่นอน

สำหรับหุ้นแนะนำ ได้แก่ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB มีกำไรสุทธิสูงกว่าประมาณการกำไรไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 10.4% เพราะอัตราการสำรองหนี้สูญต่ำกว่าคาด โดยเชื่อว่า SCB จะสามารถคงอัตราการจ่ายเงินปันผลไว้สูงถึง 80% เนื่องจากมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางบรรยากาศสินเชื่อมีอัตราการขยายตัวช้าในปี 2568-2569 (Take profit ที่ 133.50 บาท ส่วนจุด Stop loss ที่ 124.50 บาท)

บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN โดยคาดว่าบริษัทจะมีกาไรปกติต่อหุ้นเติบโตแข็งแกร่งในอัตรา 13.2% CAGR ในปี 2567-2570 และการประเมินมูลค่ายังน่าสนใจ เราจึงแนะนำให้สะสมหุ้นก่อนที่ PIN จะเปิดโครงการ IE ใหม่และขยายพื้นที่ PIN 3 ในปี 2568-2569 (Take profit ที่ 7.25 บาท ส่วนจุด Stop loss ที่ 6.25 บาท )