สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 ก.พ.68

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (4 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองบวกว่าจีนและสหรัฐฯ อาจจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้ เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจชะลอการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,556.04 จุด เพิ่มขึ้น 134.13 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,037.88 จุด เพิ่มขึ้น 43.31 จุด หรือ +0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,654.02 จุด เพิ่มขึ้น 262.06 จุด หรือ +1.35%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (4 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทต่าง ๆ อาทิ ยูบีเอส (UBS), บีเอ็นพี พาริบาส์ (BNP Paribas) และเฟอร์รารี่ (Ferrari) ขณะที่ยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 536.04 จุด เพิ่มขึ้น 1.19 จุด หรือ +0.22%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,906.40 จุด เพิ่มขึ้น 51.48 จุด หรือ +0.66%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,505.70 จุด เพิ่มขึ้น 77.46 จุด หรือ +0.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,570.77 จุด ลดลง 12.79 จุด หรือ -0.15%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันอังคาร (4 ก.พ.) เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แต่ตลาดดีดตัวขึ้นพ้นจุดต่ำสุดของวันหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเปิดเผยว่า เขาจะเจรจากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ซึ่งเพิ่มความหวังว่าจะลดความตึงเครียดในการทำสงครามการค้า

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,570.77 จุด ลดลง 12.79 จุด หรือ -0.15%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (4 ก.พ.) หลังจากจีนและสหรัฐฯ เปิดฉากการทำสงครามการค้า อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงลบหลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการกดดันอิหร่าน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลงเหลือศูนย์

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 72.70 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 76.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร (4 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากจีนตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 18.70 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 2,875.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (4 ก.พ.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.71% แตะที่ระดับ 107.960