ตุ๊บแบบนี้..เม่ากระเจิง

บอกจริง ๆ ว่า เดี๊ยนค่อนข้างระอาใจกับสภาพตลาดหุ้นไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มันไม่มีวันไหนที่ทำให้รู้สบายใจเลย


บอกจริง ๆ ว่า เดี๊ยนค่อนข้างระอาใจกับสภาพตลาดหุ้นไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มันไม่มีวันไหนที่ทำให้รู้สบายใจเลย ยิ่งวานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกขึ้นเป็นส่วนใหญ่ แต่ตลาดหุ้นไทยทิ้งตัวหน้าตาเฉยแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจพลพรรคแมงเม่าอย่างแรง และทำให้บรรยากาศการลงทุนดูแย่ลงไปอีก เพราะแนวรับ 1,300 จุดไม่ใช่จุดเด้งกลับอีกต่อไปน่ะซี

ประเด็นดังกล่าวนำไปมาสู่แนวคิดก่อนหน้านี้ที่พูดกันว่า กองทุนจะเข้ามาซื้อแบบจัดเต็มตรงบริเวณ 1,250 จุดแบบนี้..มันตีความได้ 2 แบบคือ “หุ้นยังลงได้อีก” กับ “อยู่นิ่ง ๆ ไปก่อน”  หลังวานนี้ดัชนีทรุดตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 1,286.74 จุด ลบไป 14.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.22 หมื่นล้านบาท พร้อมกับฉีกทุกทฤษฎีที่อีฉันเคยเรียนรู้มาแบบนี้..ขอเรียนตามตรงว่า อีฉันก็ไปไม่เป็นเหมือนแมงเม่าพะย่ะค่ะ

ที่น่าสนใจคือ บ้านเรามีการละครกันเยอะมาก ๆ จนเดี๊ยนตามเกมไม่ทันในหลายเรื่องที่เกิดขึ้น และตัวอย่างล่าสุดที่เห็นได้ชัดก็คือ ตัดไฟพม่า! ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่จัดขึ้นเมื่อวันก่อน จนหลายคนหัวเราะเยาะ “เสี่ยหนู” คิดได้แค่นี้จริงเหรอ? รวมทั้งมีการตั้งคำถามว่า ถ้าผู้ช่วยรัฐมนตรีจีนไม่มาไล่บี้..ไทยจะกล้าตัดไฟไหมแบบนี้ คุณ ๆ ท่าน ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบรู้สึกละอายใจกันบ้างไหม?..บรรดาขาเผือกเขาฝากถามคนที่เป็นรัฐบาลเจ้าค่ะ

ในเมื่อบ้านเราขยันสร้างภาพกันเหลือเกิน และหลายอย่างเป็นแค่คำลวง เพื่อประวิงเวลาให้ตัวเองรอดไปวัน ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่นักการเงิน และนักเศรษฐศาสตร์มองภาพประเทศไทยยังย่ำอยู่กับที่ ซึ่งเป็นตัวแปรที่เชื่อมโยงโดยตรงกับการลงทุนในตลาดหุ้นเต็ม ๆ เดี๊ยนถึงต้องทำใจกับสภาพตลาดหุ้นในเวลานี้ เพราะมันไม่มีแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นเลยพับผ่าสิ!

ขนาดหุ้นตัวท็อปอย่าง BH ยังนอนสลบเหมือดร่วมสัปดาห์ และไม่มีแรงจะเด้งกลับขึ้นไปใหม่ ก็เป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า สถาบันไม่เล่น! ซึ่งเป็นแรงกดดันที่ทำให้ราคาหุ้นยังขยับขึ้นไปไหนไม่ได้ รวมทั้งมีข่าวเม้าท์ออกมาเป็นระยะว่า ไตรมาส 4 ปี 67 งบไม่สวย อีฉันเลยไม่แน่ใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 174.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 702 ล้านบาท น่าสนใจขนาดไหน? เพราะต้องประกาศงบก่อน ถึงจะคอมเมนต์ได้ค่ะ

ส่วนรายที่ไม่ต้องรองบฯ ก็บอกได้ทันทีว่า จมกองเลือดอีกนาน “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น DELTA แบบไม่ลังเลใจ เพราะโดนทั้ง “AI จีน” และ “เกณฑ์ใหม่” เล่นงานแบบเต็ม ๆ ซึ่งทำให้นักลงทุนสถาบันขายหุ้นทิ้งแบบมาราธอน จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 114.50 บาท ลบไป 8.50 บาท หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.33 พันล้านบาท และมีผลทำให้ดัชนีร่วงไป 8.50 จุด ก็มีบางคนเม้าท์ว่า ยังมีโอกาสลงได้อีกแบบนี้..อยู่เฉย ๆ ดีกว่านะจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น SPA ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นที่โดนถล่มขายแบบไม่มีเยื่อใยเป็นเวลา 2 เดือนครึ่ง จนราคาหุ้นไหลลงจากไฮที่ระดับ 7.95 บาทลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะโดนจัดหนักอีกครั้งวานนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 5 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 8.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 76 ล้านบาท และกลายเป็นหุ้นที่แมงเม่าเม้าท์กันว่า ยังลงไม่สุดแบบนี้..ถอยดีกว่าตัวเอง!

เช่นเดียวกับหุ้นน้ำแข็งใส AU ซึ่งปีก่อนใคร ๆ ก็บอกไปในทางเดียวกันว่า หุ้นดี! แต่เริ่มปี 68 กลับถูกขายเหมือนมีปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร จนวานนี้หุ้นยืนปิดที่ระดับ 9.05 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่อีฉันกังวลเหลือเกิน เพราะกลางปีก่อนเคยเห็นหุ้นลงไปทำโลว์ที่ระดับ 6.70 บาท จึงหวั่นใจว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยน่ะซี

ตบท้ายกันที่หุ้น WARRIX เพื่อชี้ให้เห็นการขายหุ้นของ “วิศัลย์” จำนวน 20 ล้านหุ้นให้กับ “หมอพงศ์ศักดิ์” โดยเจ้าของรับเหนาะ ๆ เข้ากระเป๋า 70 ล้านบาท ขณะที่หมอถือหุ้นเพิ่มเป็น 8% ก็น่าสนใจว่า หุ้นจะไปไกลไหม? เพราะวันที่ทำรายการ 27 ม.ค. หุ้นพุ่งดีเหลือเกิน ต่อจากนั้นก็พุ่งอีกรอบ พร้อมกับทำไฮไว้ที่ 4.10 บาท แต่วานนี้หุ้นย่อตัวมาปิดที่ 3.82 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13 ล้านบาท คงเป็นหนังเรื่องยาวที่พิสูจน์ความขลังขาใหญ่ยังมีอยู่ไหม..อิอิอิ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button