KKP มอง GDP ปี 68 โต 2.6% ชูธงปล่อยกู้ลูกค้าคุณภาพ เน้นลดต้นทุน-คุมความเสี่ยง

KKP มองปี 68 สัญญาณดีขึ้น ชี้ GDP ไทยปี 68 โตเพียง 2.6% เซ่นท่องเที่ยวแผ่ว-หนี้ครัวเรือนพุ่ง ยังคงมุ่งเน้นลดต้นทุนเครดิต บริหารความเสี่ยงอย่างประสิทธิภาพ พร้อมเฝ้าระวังนโยบาย “ทรัมป์” หวั่นกระทบการค้า


ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กลุ่มธุรกิจการเงิน ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP เปิดเผยถึงกลยุทธ์ของธนาคารในปี 2568 ว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับลูกค้าที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างพอร์ตสินเชื่อที่มั่นคง ลดต้นทุนเครดิต และบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าในระยะสั้นการเติบโตอาจลดลงบ้าง แต่เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ระยะยาวในการสร้างระบบการเงินที่ยั่งยืน โดยประเมินกลุ่มลูกค้าสินเชื่อ Coperate และ Homeloan ยังเติบโตได้ดี แม้หนี้ครัวเรือน และหนี้เสีย (NPL) ยังคงสูงต่อเนื่อง แต่ยังเชื่อว่าต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit cost) จะลดลงมากกว่า

สำหรับเป้าหมายทางการเงินในปี 2568 คาดว่า NPL (Ratio) Gross จะอยู่ที่ประมาณ 4.1-4.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 4.2%, Credit Cost อยู่ที่ 2.20-2.40, ROAE อยู่ที่ 9-10%, Loan Spread อยู่ที่ 4.8-4.9%, และ Loan Growth คาดว่าไม่ขยายตัวมากนัก

ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.6% ซึ่งชะลอตัวจากปีก่อน แต่ยังมีแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวและบริการ ถึงแม้ภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งหากกระทบหนักอาจจะทำให้ GDP เหลือเพียง 2%

ด้านปัจจัยภายนอก ไทยอาจประสบปัญหาจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจกระทบการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งอาจมีผลต่อเศรษฐกิจไทยและซัพพลายเชน รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการหดตัวของสินเชื่อภาคธนาคารจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

สำหรับการใช้นโยบายการคลังและการเงินในปีนี้จะมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการใช้มาตรการขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางข้อจำกัดทางการคลังที่เพิ่มขึ้นและหนี้สาธารณะที่ใกล้แตะเพดาน 70% ของ GDP รัฐบาลอาจต้องทบทวนกลยุทธ์การกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดผลดีที่สุด

อย่างไรก็ดี ธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่มีคุณภาพและได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น “คุณสู้ เราช่วย” ที่ได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังคงเป็นผู้นำในด้านการบริหารความมั่งคั่ง ด้วยรางวัล Thailand’s Best Private Bank จากนิตยสารการเงินระดับสากล โดยธนาคารมุ่งเน้นการให้บริการลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมนำเสนอนวัตกรรมด้านการเงินและการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ที่มุ่งเน้นลูกค้าและการบริหารจัดการที่ระมัดระวังจะช่วยธนาคารเติบโตได้อย่างยั่งยืน และสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายในอนาคต

Back to top button