หุ้นโดนกระซวกหนัก
หลายคนอาจชินกับการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ในทิศทางขาลงแล้วก็ตาม แต่เดี๊ยนกลับไม่มีอาการเช่นนั้นเลย เพราะทุกวันยังภาวนาให้ตลาดหุ้นเด้งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
หลายคนอาจชินกับการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ในทิศทางขาลงแล้วก็ตาม แต่เดี๊ยนกลับไม่มีอาการเช่นนั้นเลย เพราะทุกวันยังภาวนาให้ตลาดหุ้นเด้งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และอยากเห็นเศรษฐกิจฟื้นเป็นลำดับ สุดท้ายก็ไม่เคยสมหวังเลยสักครั้ง เพราะนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ยังดาหน้าขายหุ้นไม่หยุดหย่อน ซึ่งเห็นได้จากยอดขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ กลายเป็นต่างชาติทิ้งหุ้นออกมาหมื่นล้าน ส่วนนักลงทุนที่เป็นโบรกเกอร์กับกองทุนขายหุ้นออกมาคนละหกร้อยล้านจ้า
ส่วนนักลงทุนรายย่อยรับของเข้าพอร์ตจุก ๆ 1.17 หมื่นล้าน “โมนิก้า” จึงรู้สึกหนักใจเมื่อเห็นแรงขายยังมีออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันให้ดัชนีลงมายืนอยู่ที่ระดับ 1,262.07 จุด ลบไป 24.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.81 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะลงไปทดสอบโลว์เดิมที่ระดับ 1,270 จุดอีกครั้งแบบนี้ เดี๊ยนย่อมมีความกังวลมากขึ้นเป็นธรรมดา เพราะสถานการณ์รอบด้านไม่เอื้อให้นักเล่นเข้ามาซื้อน่ะซี
ที่น่าสนใจคือ รูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีมีลักษณะ “ขึ้น 1 ลง 3” และเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาหยก ๆ และเที่ยวนี้ก็เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 “โมนิก้า” จึงขอเดาทางวันนี้ว่า ดัชนีจะเด้งกลับขึ้นมาใกล้บริเวณ 1,300 จุดอีกครั้ง และจะเคลื่อนตัวออกด้านข้างระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นตลาดหุ้นไทยจะถูกกดดันจากงบปี 67 ซึ่งจะกดดันให้นักลงทุนขายหุ้นออกมาอีกระลอก และจะทำให้ดัชนีลงไปยืนแถว 1,250 จุด..จริงเท็จประการใด ต้องดูกันเอาเองนะคะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นผลงานสุดแจ่มอย่าง WHA ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เจ๊จูน” ขึ้นมาเป็นรายแรก เพราะเป็นหุ้นที่ควรยืนหยัดสู้แรงขายได้สบาย ๆ เพราะมีเรื่องของกำไรปี 67 เป็นแบ็กอัพ แต่วานนี้ดันโดนเทขายตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 4.40 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.11 พันล้านบาทแบบนี้ มันกลายเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนนึกถึงคอมเมนต์ก่อนหน้า ผ่านจุดพีกขึ้นมาทันทีค่ะ
หนักสุดน่าจะเป็นในรายของ GPSC เพราะแรงขายไม่มีทีท่าจะเบาลงเลย จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 26.75 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 760 ล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ใหม่ให้เห็นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ต้องหนีกระเจิงกันทั้งนั้น เพราะเมื่อไล่เรียงจากเรื่องราวที่อีฉันเม้าท์ให้ฟังก่อนหน้านี้ มันมีแต่เรื่องที่กระทบกับความสามารถในการทำกำไรเต็ม ๆ นะจะบอกให้
เช่นกับในรายของ IRPC ยังถูกขายไม่เลิกเสียที ทั้งที่การยืนปิดที่ระดับ 1.05 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39 ล้านบาท เทียบกับ BV 3.48 บาท ถือเป็นระดับที่ถูกมาก ๆ ในมุมของแวลู แต่เมื่อดูจากการขาดทุนเรื้อรัง และสภาพธุรกิจปิโตรเคมีทั่วโลกเป็นขาลง จึงกลายเป็นจังหวะที่ต้องชิ่งหนีมากกว่ายื่นมือเข้าไปเล่น เดี๊ยนจึงมองไม่ออกเหมือนกันว่า จุดเด้งอยู่ตรงไหนพะย่ะค่ะ
ส่วนรายที่ลงต่อเนื่องแบบไม่มีวอลุ่ม และกลายเป็นหุ้นที่ทำคนเล่นกระเป๋าฉีกกันเป็นแถว เดี๊ยนคงมองไปที่เจ้าพ่อเหมืองบิตคอยน์ JTS เพราะการลงมายืนปิดที่ 44.25 บาท ลบไป 6.50 บาท หรือลงไป 12.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40 ล้านบาท เป็นการร่วงลงต่อเนื่อง 3 สัปดาห์แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องทำใจสถานเดียว เพราะกระแสบิตคอยน์มันไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนก่อนหน้านี้ไงล่ะคะ
สำหรับหุ้นใหญ่ที่ชอบไหลลงเงียบ ๆ จนมาเห็นอีกทีก็ต่ำเรี่ยดินเสียแล้ว “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น AWC หลังวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 2.92 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 137 ล้านบาท และเป็นระดับเดียวกับเมื่อ 6 เดือนก่อนหุ้นลงมาทำโลว์ เดี๊ยนเลยเชื่อว่า หุ้นมีสิทธิ์ที่จะลงลึกกว่าเที่ยวก่อน เพราะนักลงทุนสถาบันยังอยู่ในช่วงของการลดพอร์ต แถมบรรยากาศตลาดหุ้นก็เละสุด ๆ แล้วหุ้นมันจะขึ้นได้อย่างไรจ๊ะ
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึง BJC เป็นรายถัดมา เพราะเป็นหุ้นที่ประคองตัวได้ดีมาตลอด แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแรงขายที่ออกมาเรื่อย ๆ ผนวกกับแผนดันบิ๊กซีเข้าตลาดหุ้นเลื่อนไม่มีกำหนด (เขาว่ากันว่า ตัวเลขไม่สวย) เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่วานนี้เห็นหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 21.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท วันนี้จึงได้แค่ลุ้นให้หุ้นเด้งกลับ เพราะลงมาที่จุดรับของพอดีน่ะซี
โมนิก้า: และทีมงาน