GULF-INTUCH กอดคอเด้ง! ตอบรับข่าวจ่ายปันผล ลุ้น “กัลฟ์” กำไร Q1 โป่งหมื่นล้าน

GULF-INTUCH เด้ง! รับข่าวอินทัช ประกาศแจกปันผลพิเศษ 6.54 บาท ฟาก “กัลฟ์” จ่ายระหว่างกาล 1.01 บาท พ่วงเกาะติดบันทึกเงินปันผล “อินทัช” เข้างบไตรมาส 1/68 ของกัลฟ์ทันทีเฉียดหมื่นล้าน แย้มควบรวมกิจการตั้ง NewCo เสร็จสิ้น เม.ย.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (7 ก.พ.68) ราคาหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ณ เวลา 10:52 อยู่ที่ระดับ 98.75 บาท บวก 3.75 บาท หรือ 3.95% สูงสุดที่ระดับ 99.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 98.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,023.56 ล้านบาท

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อยู่ที่ระดับ 58.25 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.10% สูงสุดที่ระดับ 58.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 57.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 591.00 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกจากประเด็น เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.68) ทาง INTUCH แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า คณะกรรมการมีมติจ่ายปันผลพิเศษเป็นเงินสด 6.54 บาท จากกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรสิ้นสุดไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 20,496 ล้านบาท โดยจ่ายตามมติกรรมการเห็นชอบวันที่ 16 ก.ค. 67 อัตรา 4.50 บาท และเงินปันผลเพิ่มเติมจากกำไรสะสมอีก 2.04 บาท รวมเท่ากับ 6.54 บาท) กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 19 ก.พ. 68 วันที่จ่ายปันผล 4 มี.ค. 68

สำหรับกรณีดังกล่าวนี้ จะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นจากการควบบริษัทดังกล่าว (NewCo) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทและ GULF แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน GULF แจ้ง ตลท. วันเดียวกันว่า เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาลสำหรับงวด 9 เดือนปี 67 (1 ม.ค.-30 ก.ย. 67) เป็นเงินสด 1.01 บาท จากกำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 67 อยู่ที่ 14,269 ล้านบาท และกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรสิ้นไตรมาส 3/67 ที่ 54,778 ล้านบาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 19 ก.พ. 68 วันที่จ่ายปันผล 6 มี.ค. 68

ทั้งนี้จากกรณี INTUCH จ่ายปันผลพิเศษดังกล่าว ทำให้งบไตรมาส 1/68 ของ GULF จะได้รับเงินปันผลจากการถือหุ้น INTUCH จำนวน 1,519,059,306 หุ้น หรือ 47.37% คิดเป็นมูลค่า 9,934.65 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นมีการตอบรับเชิงบวกกับการจ่ายปันผลดังกล่าว หลังจากราคาหุ้น GULF พบว่าเริ่มปรับตัวลงจากระดับ 60 บาท เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 68 ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 วันทำการ จนล่าสุดมาปิดตลาดวันที่ 6 ก.พ. 2568 ที่ระดับ 56.50 บาท คิดเป็นการปรับตัวลง 5.83%  ส่วนหุ้น INTUCH เริ่มปรับตัวลงเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 68 จากราคาปิดที่ 99.50 บาท วันที่ 30 ม.ค. 68 ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วันทำการ จนล่าสุดปิดตลาด 6 ก.พ. 68 ที่ราคา 95 บาท คิดเป็นการปรับลดลง 4.52%

ด้าน นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF กล่าวว่า การควบรวมกิจการระหว่าง GULF กับ INTUCH จะเสร็จสิ้นภายในเดือน เม.ย.นี้ คาดว่ารายได้บริษัทใหม่ หรือ NewCo จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะหลังควบรวมกับ INTUCH ฐานบริษัทจะใหญ่ขึ้น ดังนั้นกำลังประเมินตัวเลขรายได้ที่เติบโตขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์รายได้จะเติบโตในระดับ 15-20% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ขณะที่ นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปลายเดือน มี.ค.นี้ หุ้น GULF และ INTUCH จะหยุดซื้อขายเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อยกเลิกบริษัททั้งสองแห่งและจะเข้าเทรดใหม่ในชื่อของบริษัทใหม่หลังจากควบรวมกิจการ

ขณะที่ วานนี้ (6 ก.พ. 68) เป็นวันสุดท้ายที่ GULF และ INTUCH ประกาศตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ ADVANC และ THCOM เริ่ม 25 ธ.ค. 67-6 ก.พ. 68 โดยเสนอซื้อ ADVANC ที่ 211.43 บาท สัดส่วน 36.25% โดยผู้ซื้อ GULF-INTUCH-Singtel-สารัชถ์ รัตนาวะดี ส่วน THCOM เสนอซื้อที่หุ้นละ 11 บาท สัดส่วน 58.86% โดยผู้ซื้อ ได้แก่ GULF-กัลฟ์ เอดจ์-INTUCH-สารัชถ์ เริ่ม 25 ธ.ค. 67-6 ก.พ. 68 ก่อนปรับโครงสร้างใหม่เป็น NewCo

ส่วนในวันนี้ (7 ก.พ.68) แนะนำนักลงทุนติดตามการประชุมคณะกรรมการ ADVANC และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เพื่อพิจารณางบไตรมาส 4/67 และงบปี 67 รวมทั้ง ADVANC จะประกาศจ่ายเงินปันผลในงวดครึ่งปีหลัง (มิ.ย.-ธ.ค. 67)

ขณะที่ รายงานจาก LSEG CONSENSUS ประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ของ ADVANC อยู่ที่ 8,832 ล้านบาท และกำไรทั้งปี 67 ที่ 33,740 ล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 301.47 บาท จาก 17 โบรกเกอร์  ขณะที่ THCOM ประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 195 ล้านบาท และกำไรทั้งปี 67 ที่ 93.33 ล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 15.35 บาท จาก 3 โบรกเกอร์

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ของ ADVANC จะอยู่ที่ 8.95 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน สู่ระดับสูงสุดในไตรมาส (นับตั้งแต่ปี 58) หรือในรอบ 10 ปี

ทั้งนี้ สาเหตุหลักมาจากรายได้ที่สูงขึ้นทั้งในธุรกิจมือถือและอินเทอร์เน็ตบ้าน ประกอบกับการควบคุมต้นทุนที่ดี สมมติฐานหลักสำหรับไตรมาส 4/67 คือ 1.) รายได้หลัก (core revenue) จะเพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 11% และเพิ่มขึ้น 1% จากธุรกิจมือถือ และ FBB รายได้จากมือถือเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และรายได้จากอินเทอร์เน็ตบ้าน หรือ FBB จะเพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3% จากไตรมาสก่อนหน้า

2.) ต้นทุนบริการสำหรับการดำเนินงานหลักจะเพิ่มขึ้น แต่ในอัตราที่ช้ากว่ารายได้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่คงที่จากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านเครือข่าย

3.) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะทรงตัวในระดับเดียวกับไตรมาส 3/67 เนื่องจากจะไม่มีการตั้งสำรองจ่ายโบนัสเพิ่มเติมเหมือนในไตรมาส 3/67 ทั้งนี้ แม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม คงประมาณการกำไรต่อหุ้นปี  67 ที่เติบโต 20% และปี 68 ที่ 6% โดยมี upside risk จากการประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นและการควบคุมต้นทุน ยืนยันคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 305 บาท

นอกจากนี้ กำไรดังกล่าวจะทำให้ ADVANC สามารถประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังที่ 5.4 บาทต่อหุ้น (XD กลางเดือนกุมภาพันธ์) ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่ ADVANC ยังคงให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีในปี 2568 ที่ 3.8%

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด ประเมินกำไรไตรมาส 4/67 ของ AIS ที่ 8.8-8.9 พันล้านบาท โต 1% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้เติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้  หรือ ARPU ที่ปรับขึ้นทั้งตลาดมือถือและเน็ตบ้าน สิ้นปี 2567 คาดกำไรที่ 3.42 หมื่นล้านบาท โต 20%

สำหรับแนวโน้มปี 2568 คาดว่ากำไรที่ 3.8 หมื่นล้านบาท โต 11% เนื่องจากการแข่งขันที่ลดความรุนแรงเป็นบวกต่อการทำกำไร นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามปีนี้คือ การประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งหากแนวโน้มแข่งไม่แรง มีโอกาสเป็น Catalyst บวก ให้ราคาเป้าหมาย 301 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดว่า ADVANC จะรายงานกำไร Q4/67 ที่ 8,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและจะจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลังปี 2567 ที่ 5.47 บาทต่อหุ้น ขณะที่ THCOM จะรายได้กำไร ไตรมาส 4/67 ที่ 267 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุ คาดกำไรสุทธิ Q4/67 ของ ADVANC จะอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า หนุนโดยรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์มือถือ บริหารต้นทุนด้านเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ในไตรมาส 4/67 มีค่าใช้จ่ายการตลาดและโบนัสเข้ามาเพิ่ม มี Potential upside ถ้าราคาประมูลคลื่นความถี่มีต้นทุนลดลงจากปัจจุบัน โดยใบอนุญาตบนคลื่นความถี่ 2100 MHz ของบริษัทจะหมดอายุในเดือน ส.ค. 2568 จึงคาดว่าบริษัทโฟกัสคลื่น 2100 MHz

จากการประมูลรอบนี้ คาดการณ์กันว่าราคาประมูลใหม่จะต่ำกว่าราคาในปัจจุบัน คงราคาพื้นฐานไว้ที่ 290 บาท ทั้งนี้ธุรกิจยังเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดการณ์กำไรสุทธิทั้งปี 67 ไว้ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท  โต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 2568 ประมาณการกำไรสุทธิเติบโต 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจาก ARPU ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือและ FBB และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Dividend Yield ปี 67-68 ไว้ที่ 3.5-3.8% ต่อปี

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด แนะนำ “ซื้อ” ADVANC โดยมองเป็นหุ้น Defensive ที่มีกำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยไตรมาส 4/2567 คาดการณ์มีกำไรปกติ 8.7 พันล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อน และ 3% จากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้แรงหนุนจากรายได้การให้บริการหลักที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการควบคุมต้นทุนที่ดี ส่งผลให้ปี 67 คาดการณ์มีกำไรปกติ 3.43 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน

Back to top button