KKP ปีนี้สำรองหนี้ลดลง คุมคุณภาพสินเชื่อ-เน้นเสถียรภาพธุรกิจ

KKP กางแผนธุรกิจปี 68 มุ่งปล่อยสินเชื่อใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าคุณภาพ แม้เป้าสินเชื่อรวมปีนี้อยู่ในระดับ "flat" ย้ำ การลดต้นทุนเครดิต สร้างรายได้ค่าฟีจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง-KKPAM ยังเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันธุรกิจ ขณะที่สำรองฯ ลดลงตาม Credit Cost ที่มีคุณภาพมากขึ้น เผย มาตรการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารต้นทุน ไม่เน้นขายคืน


นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ KKP ปี 68 โดยตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 0-2% (flat) วางเป้าหมาย NPL Ratio (Gross) ที่ระดับ -4.1-4.3% Credit Cost อยู่ที่ระดับประมาณ 2.20-2.40% ส่วน Loan Spread อยู่ที่ระดับประมาณ 4.8-4.9% คาดการณ์อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 9-10%

ขณะเดียวกัน ธนาคารมั่นใจแนวโน้มสำรองหนี้เสียรวมในปีนี้ปรับตัวลดลงจากช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจาก Credit Cost ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3-4/67 สาเหตุหลักมาจากในปี 67 มีสินเชื่อคุณภาพเข้ามาจำนวนมาก

สำหรับแนวโน้มสินเชื่อรวม แม้ว่าธนาคารตั้งเป้าเติบโตที่ระดับ flat แต่สินเชื่อในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อกลุ่มโรงแรมในปี 68 ยังมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องจากช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินเชื่อกลุ่มโรงแรมที่พอร์ตรวมในช่วงปี 67 เติบโตสูงกว่า 20,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อลดต้นทุน Credit Cost ให้ต่ำลง ส่วนสินเชื่อรถยนต์ปีนี้ยังคงหดตัวตามความผันผวนของตลาด

กลยุทธ์ปีนี้เน้นคุณภาพและเสถียรภาพ เน้นสินเชื่อคุณภาพ ลดต้นทุนด้านเครดิตและบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม แม้แนวทางการเติบโตอย่างระมัดระวัง อาจส่งผลให้ขนาดของพอร์ตสินเชื่อและรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจสินเชื่อลดลงในระยะสั้น แต่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาว” นายอภินันท์ กล่าว

นายอภินันท์ กล่าวอีกว่า ช่วงปี 67 ที่ผ่านมา รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (ค่าฟี) ถือเป็นอีกหนึ่งตัวหลักในการผลักดันรายได้และกำไรของกลุ่มให้เติบโต ปีนี้มั่นใจรายได้ค่าฟียังโตต่อเนื่อง จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (เวลธ์) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด (KKPAM) ที่มีสินทรัพย์ภายใต้บริหาร (AUM) ทั้งสองธุรกิจรวมกว่า 1 ล้านล้านบาท ปีนี้ยังเพิ่มต่อที่สองหลัก โดยเฉพาะ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ปี 2567 AUM แตะ 240,000 ล้านบาท โต 50%

ส่วนแผนการซื้อหุ้นคืนของ KKP ขณะนี้ KKP ได้ซื้อหุ้นคืนครบเรียบร้อยแล้ว พร้อมเตรียมแจ้งรายละเอียดกรณีดังกล่างต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง ส่วนวัตถุประสงค์การซื้อหุ้นคืน เพื่อลดต้นทุนธนาคาร ไม่ได้ตั้งใจขายคืน

Back to top button