เปิดโผ 23 “บจ.” ประกาศซื้อหุ้นคืน ตอกย้ำฐานะการเงินแกร่ง

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  (บจ.) ทยอยประกาศซื้อหุ้นคืน ซึ่งสอดคล้องความคิดเห็น ดร.ทักษิณ ชินวัตร ชี้ช่องบริษัทจดทะเบียนบริหารสภาพคล่องส่วนเกินด้วยการ “ซื้อหุ้นคืน” หลังพบหลายหุ้นเทรดราคาต่ำ “บุ๊กแวลู” แนะตลท.กำหนดเกณฑ์ร่วมผลักดันให้ราคาหุ้นใกล้เคียงมูลค่าทางบัญชี ล่าสุดพบว่ามีบริษัทจดทะเบียนประกาศซื้อหุ้นคืนมาแล้วตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2567 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีทั้งหมด 23 แห่ง ที่ยังไม่ครบวะระวันสุดท้ายของการซื้อหุ้นคืนดังนี้

บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมดำเนินการซื้อหุ้นคืน ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2567 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.93% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด ภายในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยใช้เงินสดจากการดำเนินงานที่เกิดจากการรับชำระเงินจากลูกหนี้การค้าและสภาพคล่องส่วนเกินจากกำไรสะสม เป็นแหล่งเงินทุนซื้อหุ้นคืน โดยกำหนดระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วงเงินสูงสุดที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน ไม่เกิน 169,389,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยระยะเวลาซื้อหุ้นคืน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2563

บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน เป็นวงเงินสูงสุดที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยมีจำนวนที่จะซื้อคืน ไม่เกิน 250 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.74% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568

บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด(มหาชน) หรือ DDD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินในวงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท จำนวนหุ้นไม่เกิน 2 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 0.63% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยจะเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงวันที่ 19 ธ.ค. 2567 ถึงวันที่ 18 มิ.ย. 2568

บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 68 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน วงเงินสูงสุดที่จะใช้ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 400,000,000 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน ไม่เกิน 63,492,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วน 7.42% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.- 11 ก.ค.68

บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS ว่าที่ประชุมได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินไม่เกิน 60,000,000 บาท โดยจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 15,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.50% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยจะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.67 ถึงวันที่ 31 ม.ค.68

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 45 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.09% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ภายใต้วงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยจะซื้อหุ้นคืนในช่วงระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-30 ก.ค.68

บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 76,800,000 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 9.26% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ภายใต้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยจะซื้อหุ้นคืนในช่วงระหว่างวันที่ 16 ก.ค.67-16 ม.ค.68

บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MOONG แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 33,600,000 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.96% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ภายใต้วงเงินไม่เกิน 16.80 ล้านบาท โดยจะซื้อหุ้นคืนในช่วงระหว่างวันที่ 20 ส.ค.67-19 ก.พ.68

บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินจำนวนที่จะซื้อคืนไม่เกิน 20 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.20% ของหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยวงเงินที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 50 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 3 เดือน นับแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2568

บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินจำนวนที่จะซื้อคืนไม่เกิน 35 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.41% ของหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยวงเงินที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 3 เดือน นับแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 13 มีนาคม 2568

บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEFCO เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินจำนวนที่จะซื้อคืนไม่เกิน 25 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.07% ของหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีการซื้อหุ้นคืนเริ่มแต่วันที่ 20 ส.ค.67-20 ก.พ.68

บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยมีจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 9.70% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ภายในวงเงินไม่เกิน 250 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568

บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 640 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.17% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ  โดยมีระยะเวลาซื้อหุ้นคืนนับแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2568

บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SNP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 7 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.36% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีระยะเวลาซื้อหุ้นคืนนับแต่วันที่ 20 พ.ย.67 ถึงวันที่ 19 พ.ค.68

บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน8.90% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีระยะเวลาซื้อหุ้นคืนนับแต่วันที่ 15 พ.ย.67 ถึงวันที่ 12พ.ค.68

บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 1,684,200 หุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นอัตรา 0.51% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ นับแต่วันที่ 4 ม.ค.66 ถึงวันที่ 31พ.ค.68

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 135 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นอัตรา 1.09% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ นับแต่วันที่ 13 ม.ค.68 ถึงวันที่ 11 ก.ค.68

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.68 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 135 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นอัตรา 1.09% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ นับแต่วันที่ 13 ม.ค.68 ถึงวันที่ 11 ก.ค.68

บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 8/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 700 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 30,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 5 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว โดยมีระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน กำหนดซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท โดยจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 4.49 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว กำหนดซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568

ทั้งนี้เหตุผลในการซื้อหุ้นคืนของบริษัทเพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) รวมทั้งเป็นการตอกย้ำถึงสภาพคล่องของบริษัทฯ ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน และสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว