![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2025/02/SEC_20250208.jpg)
เปิดยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. พลิกโฉมตลาดทุนไทย
เมื่อโลกไม่เคยหยุดนิ่ง ตลาดทุนไทยจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นี่คือเรื่องจริงในโลกการลงทุน
“เมื่อโลกไม่เคยหยุดนิ่ง ตลาดทุนไทยจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ” นี่คือเรื่องจริงในโลกการลงทุน และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ก.ล.ต. ต้องทบทวนแผนยุทธศาสตร์ ทุก ๆ 3 ปี ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไป ถ้าเราสามารถพลิกความท้าทายให้กลายเป็นโอกาสได้!
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ฉายภาพที่มีผลกับตลาดทุนดั้งเดิมและตลาดทุนดิจิทัลของไทย ผ่าน “งานสัมมนาแถลงแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2568-2570” โดยตลาดทุนไทย ยังคงมีความท้าทายที่ต้องเจอ เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กระแสความยั่งยืน สังคมสูงวัยและพฤติกรรมของผู้ลงทุนรุ่นใหม่ รวมถึง “ความเชื่อมั่นและมุมมองต่อตลาดทุนไทย”
เมื่อความท้าทายอยู่รอบตัว ผู้ลงทุนก็คงมีคำถามว่า “ในฐานะผู้กำกับดูแล” มีแผนรับมือกับความท้าทายเหล่านี้อย่างไร? ก็ต้องบอกว่า ก.ล.ต. ได้มีการจัดเตรียมแผนไว้แล้ว ซึ่งแผนดังกล่าว “ก.ล.ต. ไม่ได้คิดคนเดียว แต่ได้ชวนทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาร่วมกันระดมสมองและให้ความคิดเห็น” ไม่ว่าจะเป็น สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
โดยแผนที่ทำอยู่และทำต่อ คือ การยกระดับความเชื่อมั่น อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการยกระดับการติดตาม เสริมสร้างการกำกับดูแล และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งอยู่ในพันธกิจของ ก.ล.ต. อยู่แล้ว โดย ก.ล.ต. มีการประเมินมาตรการที่ได้ดำเนินการ พร้อมยกระดับความเข้มข้นของการกำกับดูแลส่วนแผนใหม่ที่จะต้องทำ เช่น ยกระดับการเปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนผลการดำเนินงานหรือแนวทางในการเพิ่มมูลค่าผลประกอบการ และการดำเนินการด้านความยั่งยืนของบริษัท และ ส่งเสริมระบบนิเวศโครงสร้างพื้นฐานรองรับตลาดทุนดิจิทัล เป็นต้น
เป้าหมายสำคัญหรือเข็มทิศของ ก.ล.ต. ตามแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2568-2570 มีทั้งหมด 5 ด้านหลัก ได้แก่ ตลาดทุนได้รับความเชื่อมั่น ตลาดทุนเป็นแรงขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ตลาดทุนเป็นกลไกสู่ความยั่งยืน ผู้ลงทุนมีสุขภาพทางการเงินที่ดี และ ศักยภาพในการดำเนินการตามพันธกิจของ ก.ล.ต.
คุณผู้อ่านก็อาจจะมีคำถามต่อว่า รายละเอียดของแต่ละเป้าหมายคืออะไร? ก็ขอขยายความให้ชัดเจนขึ้นสัก 3 ตัวอย่าง เช่น “ตลาดทุนต้องได้รับความเชื่อมั่น” หัวใจสำคัญของเป้าหมายนี้ คือ เพิ่มกลไกตรวจจับ ป้องกันทุจริต และการกระทำไม่เหมาะสม ขณะที่ผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุนก็ต้องมีระบบที่เข้มงวดขึ้น เพื่อปิดโอกาสในการกระทำผิดให้มากที่สุด ดังนั้น มาตรการป้องปรามจะมีบทบาทมากขึ้น นอกจากนี้ อยากให้ผู้ลงทุนและผู้ร่วมตลาดใช้ข้อมูลที่มีอยู่เลือกลงทุนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ให้ข้อมูลการเงินการลงทุน
ส่วน “ตลาดทุนเป็นแรงขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล” จะมุ่งสร้างระบบนิเวศเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจดิจิทัล โดยประโยชน์ที่ได้ชัดเจน คือ ผู้ลงทุนจะเข้าถึงตลาดทุนได้สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกในการเปิดบัญชี หรือการลงทุนในโทเคนที่ออกเพื่อการลงทุน เป็นต้น
ขณะที่ “ตลาดทุนเป็นกลไกสู่ความยั่งยืน” ก.ล.ต. มีแผนยกระดับ ESG ของบริษัทจดทะเบียนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งภาคธุรกิจและผู้ลงทุนจะมีทางเลือกในการลงทุนระยะยาวเพิ่มมากขึ้น
จากแผนยุทธศาสตร์ที่ ก.ล.ต. จะขับเคลื่อนตลาดทุนไทย หากทุกองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำเอาแผนงานไปสอดรับหรือเสริมกับแผนงานขององค์กรที่กำลังจะมุ่งไป ก็เชื่อว่าจะทำให้ประเทศของเรามีตลาดทุนที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่หลากหลาย ทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าไป โดยใช้ตลาดทุน เป็นกลไกในการสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ ทั้งนี้ ดิฉันขอย้ำว่า เส้นทางนี้ ก.ล.ต. มีหน้าที่กำกับดูแลก็จริง แต่ไม่สามารถเดินคนเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน “เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมาย รองรับการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน”
ตลาดทุนไทยกำลังเปลี่ยนแปลง และโอกาสใหม่ ๆ กำลังเกิดขึ้น คุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปพร้อมกัน?
ผู้เขียน: อาชินี ปัทมะสุคนธ์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)