![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2025/01/MOF_2025-01-30_Pichai.jpg)
“พิชัย” ชี้ไม่ถึงเวลาขยาย “เพดานหนี้” เน้นบริหารงบ-เก็บภาษีให้ดีขึ้นก่อน
“พิชัย ชุณหวชิร” ขยายเพดานหนี้สาธารณะต้องพิจารณาบริหารงบประมาณและเก็บภาษีอย่างมีประสิทธิภาพก่อน พร้อมเผยต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจเติบโต
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อเสนอของ นายอาทิตย์ นันทวิยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (SCBX) ที่เสนอขยายเพดานหนี้สาธารณะเกิน 70% ชั่วคราว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยอมรับว่ามีมุมมองเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว แต่การตัดสินใจขยายเพดานหนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการเพิ่มหนี้สาธารณะต้องมาพร้อมกับการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเก็บภาษีอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
“หากเศรษฐกิจเติบโตได้ตามเป้าหมาย เราอาจไม่จำเป็นต้องขยายเพดานหนี้เลยก็เป็นได้” นายพิชัย กล่าว พร้อมเสริมว่า “เราต้องพิจารณาทุกด้านก่อนที่จะตัดสินใจ และหากทุกอย่างทำได้ดี การขยายหนี้อาจไม่จำเป็นในกรณีที่เศรษฐกิจเติบโตตามเป้าหมาย”
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ 2.0 นั้น นายพิชัยยอมรับว่า สหรัฐฯ อาจพิจารณาการขึ้นหรือลงภาษีตามความต้องการ แต่ไทยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ โดยต้องพิจารณาคุณภาพและราคาของสินค้าที่นำเข้าให้เหมาะสม
สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต 3.5% นายพิชัยกล่าวว่า ปัจจัยสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของประชาชน “รัฐบาลพยายามส่งเสริมการลงทุนและสร้างโรงงานจริงๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปัญหาความไม่เชื่อมั่นก็เกิดขึ้นทั่วโลก” นายพิชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน รองนายกฯ และรมว.คลังได้ย้ำว่าในช่วงนี้ ปัญหาความไม่เชื่อมั่นเป็นเรื่องธรรมชาติที่หลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งพัฒนาและแก้ไขเพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป