![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2024/03/CL_2024_politics.jpg)
พาราสาวะถี
ยังคงถูกตามถามกันต่อเนื่องเรื่องปรับ ครม. ทั้งที่ แพทองธาร ย้ำหนักแน่นแล้วว่า “ไม่ปรับค่ะ” นั่นอาจเป็นเพราะกระแสที่ว่า ธรรมนัส จะคัมแบ็ก
ยังคงถูกตามถามกันต่อเนื่องเรื่องปรับ ครม. ทั้งที่ แพทองธาร ชินวัตร ย้ำหนักแน่นแล้วว่า “ไม่ปรับค่ะ” นั่นอาจเป็นเพราะกระแสที่ว่า ธรรมนัส พรหมเผ่า จะคัมแบ็กกลับมาร่วมงาน ครม.อีกคำรบ ในประเด็นนี้ หากฟังที่ ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ล่าสุด น่าจะตัดจบได้ การจะเข้ามาแทนที่ของ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คงยังไม่มี เพราะนฤมลกับธรรมนัสปรึกษากันอยู่ตลอด คำตอบของนายใหญ่น่าเชื่อถือได้ เพราะผู้กองมันคือแป้งคือมือไม้ทำงานอีกรายที่คนบ้านจันทร์ส่องหล้าไว้วางใจ
อีกเหตุผลที่ยังไม่จำเป็นต้องรีบดึงธรรมนัสกลับมาร่วมรัฐบาล หนีไม่พ้นปมคุณสมบัติ ซึ่งมีโอกาสที่จะสะเทือนต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของลูกสาวผู้มีบารมีประจำรัฐบาลนั่นเอง อีกหนึ่งปัจจัยที่ทักษิณชี้ถือว่าสมเหตุสมผล หากไม่ใช่การลาออกของรัฐมนตรีหรือเก้าอี้ว่าง จะไม่มีการปรับ เหนือสิ่งอื่นใดคงเป็นเรื่องความสบายใจของแพทองธาร ที่ยังแฮปปี้กับการทำงานร่วมรัฐบาลปัจจุบันอยู่ บางคนที่เป็นเสนาบดีโลกลืม หรือมัวแต่รำวง อยู่ในวิสัยที่สามารถกระตุ้นกันได้อยู่
แต่ไม่แน่ว่าเมื่อรัฐบาลบริหารประเทศผ่านครึ่งปี หรืออาจจะเป็นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน หากบางคนถูกซักฟอกจนสังคมเกิดความกังขา ก็มีความเป็นไปได้ที่จะขยับเพื่อความเหมาะสม ถ้ายึดโยงเอาความเป็นปึกแผ่นของรัฐบาลผสม เมื่อพรรคร่วมอื่นไม่ขยับก็ยังไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยน เว้นเสียแต่ว่าภายในพรรคแกนนำรัฐบาลเอง ต้องการที่จะปูนบำเหน็จหรือถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนบางคนออกนั่นก็อีกเรื่อง
พอพิจารณารายชื่อของรัฐมนตรีตามโควตาของเพื่อไทยแล้ว ทั้งหมดอยู่ในระนาบแถวหน้าที่ผ่านการคัดกรองจากนายใหญ่มาแล้วเป็นอย่างดี จึงยังไม่มีเหตุที่จะต้องปรับเปลี่ยน ยิ่งมองไปยังพรรคร่วมรัฐบาลอื่นตัวเลือกที่มีแทบจะเหลือน้อยเต็มทน เว้นแต่บางพรรคอย่างรวมไทยสร้างชาติที่มีสัญญาใจกันภายใน ตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งของพรรคไม่ใช่ตำแหน่งเฉพาะตัว จึงต้องสลับสับเปลี่ยน ให้เพื่อน สส.ที่มีความรู้ความสามารถ ได้เข้ามามีโอกาสทำงานในฝ่ายบริหารบ้าง
ด้านพรรคกล้าธรรมก็มีเหตุผลเดียวหากจะปรับคือหลีกทางให้ธรรมนัส ซึ่งตรงนี้ถ้ายึดตามที่นายใหญ่ประกาศิตคือยังไม่ถึงเวลา ประชาธิปัตย์ไม่ต้องพูดถึงตัวเลือกกับโควตาที่ได้รับการจัดสรรมีแค่เท่านั้นจริง ๆ ขยับให้ใครเป็นไม่ได้แล้ว ส่วนภูมิใจไทยของ อนุทิน ชาญวีรกูล เห็นได้ชัดว่า เก้าอี้รัฐมนตรีนั้นได้ถูกวางไว้ให้กับแต่ละบุคคลที่มีกำลังภายในของพรรคหมดแล้ว พิสูจน์จาก ชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่ไม่ได้กลับมาจากปมคุณสมบัติ ยอมเสียสละแต่ไม่ปล่อยมือดัน ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ ลูกสาวมานั่งเก้าอี้ช่วยว่าการมหาดไทยแทน
เมื่อโจทย์เป็นแบบนี้จึงมีทางเลือกเดียวที่จะนำไปสู่การปรับ ครม.คือ การซักฟอกของฝ่ายค้านมีข้อมูลเด็ด จนสั่นคลอนเก้าอี้รัฐมนตรีของใครบางคนได้ กรณีนี้หากทำการบ้านกันเหมือนที่ผ่านมา อาศัยข่าวตัดแปะมาต่อจิ๊กซอว์ ใช้วาทกรรมเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของผู้ถูกอภิปราย ก็จะจบแบบเดิมไม่มีอะไรในกอไผ่ ต้องได้ข้อมูลอินไซด์เท่านั้นจึงจะล้มรัฐบาลได้ ถ้าพิจารณาจากบรรยากาศแม้จะเป็นรัฐบาลผสมแต่ความกลมเกลียวทั้งภายในของแต่ละพรรค กับพรรคร่วมด้วยกันเองถือว่าแข็งแกร่ง
ประเภทที่โหมประโคมข่าวโดยเฉพาะกรณีการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของทักษิณนั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะผูกเงื่อนเพื่อให้เห็นถึงการใช้อำนาจในการเอื้อประโยชน์ให้กับอดีตนายกฯ เพราะกระบวนการทั้งหมดเกินครึ่งเกิดขึ้นก่อนรัฐบาลจากการเลือกตั้งจะเข้ามารับตำแหน่ง กรณีอ้างหลักฐานจาก พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยนั้น อาจเป็นแอ็กชันที่เร้าความสนใจ สร้างสีสันให้กับการอภิปรายซักฟอกหนนี้เท่านั้น
รู้กันอยู่การเคลื่อนไหวลักษณะนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความไม่พอใจที่ไม่ได้รับตำแหน่งในรัฐบาล นั่นจึงเป็นที่มาของคำตอบจากทักษิณหลังจากนักข่าวถามต่อกรณีนี้ “ผมเป็นตำรวจเก่า รู้จักแต่พลตำรวจเอกที่เป็นผู้ชาย พลตำรวจเอกผู้หญิง ผมไม่รู้จัก” แม้จะถูกจี้ถามว่าที่พูดนั้นเป็นการประชดประชันไปยังเสรีพิศุทธ์หรือไม่ คำตอบที่ได้คือพลตำรวจเอกหญิงยังไม่มี และประเทศไทยยังไม่เคยมี ใครอยากเป็นคนแรกก็เป็น ตามมาด้วยการบอกว่า “ผมเป็นลูกผู้ชาย”
จากการจับอาการ และอารมณ์ของนายใหญ่ที่ให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้อย่างอารมณ์ดี พูดไปยิ้มไป นั่นแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้หวั่นไหวต่อการกระทืบเท้าขู่ของฝ่ายค้านแต่อย่างใด นอกจากนั้น ยังเชื่อมั่นด้วยว่าแพทองธารจะสามารถชี้แจงได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าผ่านมาเยอะแล้ว โดนมาเยอะแล้ว เป็นหน้าที่ของคนเป็นนายกฯ ที่ต้องคอยตอบคำถาม ส่วนฝ่ายค้านมีหน้าที่ตั้งคำถาม ผู้นำรัฐบาลมีหน้าที่ตอบ ไม่มีอะไร เพราะเป็นกติกาประชาธิปไตย
ไม่เพียงเท่านั้น การซักฟอกหนนี้เราอาจจะได้เห็นทักษิณไปปรากฏตัวที่รัฐสภา ไม่ได้ไปครอบงำ หรือตั้งวอร์รูมเพื่อตอบโต้ฝ่ายค้าน แต่จะเป็นการไปอยู่หลังห้องเพื่อป้อนข้อมูลให้กับทั้งลูกสาว และแกนหลักของพรรคเพื่อไทยที่จะทำหน้าที่แถลงโต้กลับฝ่ายค้านทันที หากมีการอภิปรายถึงอดีตนายกฯ ในประเด็นต่าง ๆ ตรงนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้น่าติดตาม เผลอ ๆ อาจจะมีฝ่ายค้านบางรายถูกซักฟอกกลับก็เป็นได้
การตัดไฟที่ส่งไปเมียนมา 5 จุดเพื่อจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เริ่มได้ผล ไม่พูดถึงความเดือดร้อนของชาวเมียนมาที่ก่อหวอดประท้วงกัน พวกมิจฉาชีพก็ทยอยปลดพนักงาน ขณะเดียวกัน กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตยหรือ DKBA ก็ออกแถลงการณ์ขีดเส้นตายให้ชาวจีนที่เข้าไปทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร ค้าขาย เปิดบ่อนกาสิโน และเกมออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย ต้องเดินทางออกจากอำเภอพญาตองซูก่อนวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เรียกว่าหนุนมาตรการของไทยเต็มที่ บอกแล้วว่าการตัดสินใจเด็ดขาดของแพทองธารนั้น ไม่ใช่แค่ให้ สมช.ประเมินแล้วคิดเอง เออเอง ถ้าไม่ได้รับแรงหนุนที่มีพลังมหาศาลไม่มีทางลุยไฟแน่นอน
อรชุน