![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2025/01/Trumps_2025-01-20.jpg)
ลงนามแล้ว! “ทรัมป์” เอาจริงเก็บภาษีนำเข้า “เหล็ก-อะลูมิเนียม” 25% มีผล 4 มี.ค.นี้
“โดนัลด์ ทรัมป์” ลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้า “เหล็ก-อะลูมิเนียม” อัตรา 25% ตามที่ลั่นวาจาไว้ มีผลตั้งแต่ 4 มี.ค.68 คาด แคนาดา-เม็กซิโก-เยอรมนี-ผู้ส่งออกในเอเชีย กระทบหนัก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เย็นวันจันทร์ (10 ก.พ.68) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่ง ที่กำหนดอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม ในอัตรา 25% ตามที่เขาประกาศไว้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังลงนามยกเลิกคำสั่งที่เกี่ยวกับการเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อน เคยอนุมัติด้วย
โดยผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นครั้งนี้ คาดว่าได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก เยอรมนี และผู้ส่งออกในเอเชีย อย่าง เกาหลีใต้
ทั้งเหล็กและอะลูมิเนียม เป็นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการขนส่ง การก่อสร้าง และบรรจุภัณฑ์ โดยการเก็บภาษีจะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.นี้
“คำสั่งนี้จะช่วยให้การบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าโลหะเป็นไปอย่างราบรื่นและชัดเจนยิ่งขึ้น” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว พร้อมย้ำว่า “สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% โดยไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าประเทศใดก็ต้องถูกเรียกเก็บเหมือนกัน”
แน่นอนว่าตั้งแต่ที่ทรัมป์ ประกาศจะเก็บภาษีสินค้าในกลุ่มเหล็กและอะลูมิเนียมเพิ่มขึ้น ได้ส่งผลดีต่อหุ้นของบริษัทผู้ผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมในสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นของ Cleveland-Cliffs, Nucor และ U.S. Steel
ข้อมูลการนำเข้าเหล็กของสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยลดลง 35% ระหว่างปี พ.ศ. 2557-2567 (ค.ศ. 2014-2024) แม้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.5% ต่อปีเป็น 26.2 ล้านตันในปีที่แล้วก็ตาม ซึ่งหลายคนถือว่าสิ่งนี้มาจากภาษีศุลกากรที่นำมาใช้ภายใต้การบริหารครั้งแรกของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม การนำเข้าอะลูมิเนียมของอเมริกาเพิ่มขึ้น 14% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกโลหะของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 (ค.ศ.2020)