![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2025/02/America-Stockmarket_2025-02-05_up_0.jpg)
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 123 จุด รับหุ้น “Apple-Coca-Cola” พุ่งแรง
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 123 จุด รับแรงหนุนจากหุ้น Apple และ Coca-Cola ที่ปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่นักลงทุนยังจับตานโยบายการค้าของ “ทรัมป์” อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันอังคาร (11 ก.พ.) นำโดยแรงหนุนจากหุ้น Apple และ Coca-Cola ขณะที่นักลงทุนประเมินถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เจอโรม พาวเวล ซึ่งระบุว่า เฟดยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,593.65 จุด เพิ่มขึ้น 123.24 จุด (+0.28%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,068.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด (+0.03%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,643.86 จุด ลดลง 70.41 จุด (-0.36%)
โดยการปรับตัวของตลาดมีขึ้นในขณะที่ พาวเวล แถลงนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยระบุว่า เฟดยังคงใช้แนวทางที่รอบคอบในการกำหนดนโยบายทางการเงิน และไม่รีบร้อนปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ และเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2%
“เราตระหนักถึงความเสี่ยงของการผ่อนคลายทางการเงินเร็วเกินไป ซึ่งอาจขัดขวางความคืบหน้าในการลดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน หากเราผ่อนคลายช้าเกินไป อาจกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน” พาวเวล กล่าว
ทั้งนี้ พาวเวลมีกำหนดแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (12 ก.พ.) เวลา 10:00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ 22:00 น. ตามเวลาไทย
ขณะที่ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้น Apple ซึ่งปรับตัวขึ้น 2.2% หลังมีรายงานว่า บริษัทกำลังร่วมมือกับ Alibaba เพื่อพัฒนาและเปิดตัวฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับผู้ใช้ iPhone ในจีน ขณะที่หุ้น Coca-Cola พุ่งขึ้น 4.7% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 โดยมีกำไรต่อหุ้นที่ 55 เซนต์ สูงกว่าคาดการณ์ที่ 52 เซนต์
ส่วนกลุ่มพลังงาน หุ้น Phillips 66 เพิ่มขึ้น 4.7% หลังมีรายงานว่า Elliott Management Corp เข้าซื้อหุ้นของบริษัทพลังงานแห่งนี้มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ตรงกันข้าม หุ้น Tesla กลับร่วงลง 6.3% หลังสื่อรายงานว่า อีลอน มัสก์ และกลุ่มนักลงทุนเสนอเงิน 97.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการ OpenAI
ด้านนักลงทุนยังคงติดตามความเคลื่อนไหวด้านนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 25% จากเดิม 10% พร้อมส่งสัญญาณเตรียมใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ตลาดกำลังรอการเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมกราคม ซึ่งมีกำหนดประกาศในคืนนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะถัดไป