พาราสาวะถี

กระแสข่าวปรับ ครม.จุดไม่ติด นั่นเป็นเพราะ แพทองธาร ชินวัตร คนมีอำนาจในการเขย่ายืนยันมั่นเหมาะไม่มีขยับ ด้วยเหตุผลไม่อยากสร้างแรงกระเพื่อมให้รัฐบาลโดยใช่เหตุ ไม่มีความจำเป็นในจังหวะที่กระบวนการขับเคลื่อนงานกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ส่วน “พ่อนายกฯ” ทักษิณ ชินวัตร เข้าใจลูกสาวและเห็นความจำเป็นเมื่อพอใจกับเสนาบดีร่วมคณะ บางคนช้า บางรายยังรำวงอยู่ แต่ทำงานด้วยกันได้ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน แค่กระทุ้งให้ทำงานหนักและเร็วขึ้นก็เท่านั้น

เช่นเดียวกัน ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม คนที่เป็นตัวละครหลักของข่าวที่จะมีการปรับ ครม.เที่ยวนี้ ช่วยตอกย้ำอีกแรง ในฐานะหัวหน้าครอบครัวของพรรคนี้ คนที่พรรคส่งไปเป็นรัฐมนตรียังทำงานกันได้ดี ต้องให้โอกาสทุกคนได้ไปต่อ พร้อมท่องคาถาสุขนิยม พอใจในบทบาทที่เป็นอยู่ ดังนั้น ข่าวปรับ ครม.ไม่ต้องไปถาม นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว มีอะไรให้ถามตนแต่เพียงผู้เดียว

เป็นการยืนยันให้เห็นว่าใครคือผู้มีอำนาจ บารมีของพรรคแห่งนี้ เมื่อทุกอย่างลงตัว ทุกคนพอใจ ทุกฝ่ายรับได้ ก็ไม่มีเหตุที่จะต้องไปขยับปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดแรงกระเพื่อมโดยไม่จำเป็น ไม่ต่างกับพรรคแกนนำรัฐบาลเมื่อลูกสาวในฐานะผู้มีอำนาจนำของฝ่ายบริหาร กับผู้พ่อที่เป็นผู้มีบารมีทั้งต่อ ครม.และพรรคเพื่อไทย เห็นพ้องต้องกันว่ายังไม่ปรับ ครม. ต้องว่ากันไปตามนั้น ไปวัดกันอีกทีหลังเห็นโผในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน

รัฐมนตรีรายไหนถูกจับไปขึงพืดถ้าชี้แจงได้กระจ่าง เคลียร์ทุกอย่างได้แบบไร้มลทิน หมายถึงหนทางข้างหน้าย่อมโล่งโปร่งสบาย อยู่กันไปได้แบบยาว ๆ ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงภายในของแต่ละพรรคจะว่ากันยังไง พรรคไหนไร้เงื่อนไขโดยยินยอมพร้อมใจให้เป็นอำนาจเด็ดขาดของผู้มีบารมีในพรรคก็หมดปัญหา ส่วนพรรคใดมีสัญญาใจกันไว้ เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นสมบัติผลัดกันชม ก็ต้องยึดตามนั้น แล้วแจ้งให้นายกฯ หญิงทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการตามความต้องการ 

หลังการเดินทางเข้าสู่ปีที่สองของรัฐบาลพลิกขั้ว แต่เพิ่งจะ 5 เดือน กำลังจะเข้าสู่ครึ่งปีแรกของรัฐบาลแพทองธาร งานหลายอย่างจากที่ถูกมองว่าเดินกันช้า ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และตอบโจทย์ปัญหาของบ้านเมือง แต่หลังจากได้ขยับแจกเงินหมื่นเฟสแรก ตามมาด้วยเฟสสอง และกำลังจะเดินหน้าเฟส 3 ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ประกอบกับทิศทางของเงินได้จากการท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้น เช่นเดียวกับการเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหายาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ความเชื่อมั่นที่มีต่อฝ่ายกุมอำนาจดีขึ้นตามลำดับ

แง่ความหวังของประชาชนมองไปถึงการให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ใช่มัวแต่มาระแวดระวังกับการถูกเล่นงานด้วยนิติสงคราม หรือการคอยปัดแข้งปัดขาของพวกขาประจำ ฝ่ายจงเกลียดจงชังระบอบทักษิณแบบสุดขั้ว พอเสียงส่วนใหญ่ไม่ให้ค่าต่อความพยายามด้อยค่า หรือทุกการเคลื่อนไหวของพวกสร้างกระแส มันจึงเป็นเหมือนหัวเชื้อชั้นดีที่ทำให้แพทองธารและคณะมีกำลังใจในการที่จะเดินหน้าทำตามนโยบายเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

การเมืองภายในรัฐบาลผสมที่มองเห็นได้จากภายนอก และรับรู้กันเป็นการภายใน ต่อการชิงไหวชิงพริบ ขบเหลี่ยมกันอยู่บ้างระหว่างนายใหญ่ กับกุนซือสำคัญของภูมิใจไทยอย่าง เนวิน ชิดชอบ แต่ท้ายที่สุด ด้วยข้อตกลงที่ทำให้เกิดรัฐบาลพลิกขั้ว มันจึงทำให้ไม่สามารถที่จะเอาชนะคะคาน หรือเล่นงานกันให้ตายไปข้างหนึ่งได้ ยังไงก็ต้องยอมกลืนเลือดทั้งสองฝ่าย แล้วใช้กลไกทางการเมืองที่ตัวเองมีและถนัด เพื่อสร้างพรรคให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน

การบดบี้กันทางการเมือง หลังจากแลกหมัดกันไปก่อนหน้าว่าด้วยที่ดินเขากระโดงกับสนามกอล์ฟอัลไพน์ พอมาเจอไม้เด็ดของเพื่อไทยที่เปิดประเด็นว่าด้วยการตัดไฟที่ส่งไปเมียนมาในความรับผิดชอบของ กฟภ.ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล กุมบังเหียนบังคับบัญชาในตำแหน่ง มท.1 แม้จะโยนกลองกันไปมา แต่สุดท้ายเมื่อ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย สวมหัวโขนรองนายกฯ ดูแลความมั่นคงใช้อำนาจของ สมช.สั่งการ จัดการเด็ดขาด ทำให้ถึงบางอ้อกันว่า แอ็กชันดุเด็ดเผ็ดมันที่ถูกส่งสัญญาณมาจากเวทีปราศรัยของทักษิณนั้น แท้จริงผ่านกระบวนการประสานจนตกผลึกกันมาหมดแล้ว

ไม่ใช่แค่ทำความเข้าใจกับรัฐบาลทหารเมียนมา ประสานความร่วมมือกับชนกลุ่มน้อยที่มีกองกำลังดูแลพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เป็นการประสานและได้รับแรงหนุนอย่างดีจากมหาอำนาจแห่งเอเชียอย่างจีนด้วย จึงทำให้เมื่อมีการตัดไฟแล้วปฏิกิริยาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแทบจะไม่มี มีแค่การประท้วงของชาวเมียนมาบ้างพอเป็นพิธี นี่ก็เป็นภาพสะท้อนว่าการทำงานเพื่อสร้างความพอใจให้กับประชาชน และเกิดแรงหนุนเป็นวงกว้างนั้น ต้องรัดกุม รอบคอบ และสามารถที่จะตัดสินใจฉายให้เห็นถึงความเด็ดขาดในทันทีเมื่อทุกอย่างพร้อม

ความฮึกเหิมของฝ่ายสีน้ำเงินหลังจากสามารถกุมเสียงข้างมากของ สว.ได้ ก่อนหน้าอาจดูว่าสามารถที่จะใช้เป็นพลังต่อรองกับพรรคแกนนำรัฐบาลได้ แต่วันนี้หลังจากที่ดีเอสไอได้รับเรื่องร้องเรียน และมีการประสานมาจาก กกต. ให้ดำเนินการสอบสวนคดีการได้มาซึ่ง สว.โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นความมั่นคงของรัฐ ถือเป็นไม้เด็ดอีกอย่างที่ถูกมองว่านายใหญ่จะใช้เป็นเครื่องมือในการกำราบฝ่ายที่ท้าทายกันอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ก่อนเรื่องนี้จะมีข้อยุติคงต้องจับตาดูการประชุมรัฐสภาวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นี้ ที่จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเสนอเป็นญัตติเสียก่อน คาดหมายกันว่าจะออกมาในลักษณะที่ สว.เข้าชื่อกัน โดยอาจมี สส.บางส่วนสนับสนุน เสนอญัตติให้ที่ประชุมลงมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องทำประชามติ 2 หรือ 3 ครั้งก่อน เท่ากับว่า การประชุมเรื่องนี้จะพักไว้ก่อนโดยปริยาย ซึ่งความเป็นไปได้หวยน่าจะออกมาในรูปแบบนี้

อรชุน