“ดาวโจนส์” ร่วง 430 จุด หลังสหรัฐเปิดตัวเลข CPI สูงกว่าคาด

“ดัชนีดาวโจนส์” ลบกว่า 400 จุด หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. สูงกว่าคาดการณ์ นักลงทุนจับตา PPI พรุ่งนี้ ชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเปิดทำการด้วยแรงกดดัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดการณ์ในเดือนมกราคม ส่งผลให้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 400 จุด

โดย ณ เวลา 22:05 น. ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์อยู่ที่ 44,163.43 จุด ลดลง 430.22 จุด หรือ 0.96% โดยปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดมาจากการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเกินคาดการณ์

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.0% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.9% และเพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในเดือนธันวาคม ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือน CPI เพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 0.3% และเพิ่มขึ้นจาก 0.4% ในเดือนก่อนหน้า

ด้านดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าการคาดการณ์ที่ 3.1% และเพิ่มขึ้นจาก 3.2% ในเดือนก่อน ส่วนเมื่อเทียบรายเดือน CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 0.3% และเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.2% ในเดือนธันวาคม

ทั้งนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) ซึ่งจะช่วยชี้แนวทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ขณะที่ในวันอังคาร (11 ก.พ.) เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยระบุว่า เฟดยังไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ และเงินเฟ้อยังสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2%

 

Back to top button