![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2024/04/CGSI_2024-04-04.jpg)
CGSI มอง SET ผันผวน จับตานโยบายการค้าสหรัฐ แนะลงทุน MTC–AMATA
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ประเมิน SET Index แกว่งผันผวนในกรอบ 1,265-1,290 จุด เหตุนักลงทุนจับตานโยบายการค้าสหรัฐ หลังทรัมป์ลงนามเรียกเก็บภาษีอะลูมิเนียมนำเข้าในอัตรา 25% แนะลงทุน MTC–AMATA
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ.68) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน โดยดัชนี DJIA และ S&P500 ร่วงลง หลังรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐเดือนม.ค. ขยายตัวสูงกว่าตลาดคาดการณ์ สนับสนุนแนวโน้มที่ Fed จะยัง “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.50% นานขึ้น (อ้างอิงจาก CME FedWatch ตลาดให้น้ำหนักลดลงมา เป็น 70% ที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ภายในสิ้นปีนี้) ส่งผลให้บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้นมาที่อัตรา 4.7%, ราคาทองคำปิดลบ 0.1%, ดัชนี VIX ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 17.2 ระหว่างวัน
โดยตัวเลข CPI ขยายตัว 3.0% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะคงเดิมจากเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.9% และ Core CPI ขยายตัว 3.3% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าตลาดคาดที่ เพิ่มขึ้น 3.1% vs. เดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.2% สอดคล้องกับแถลงการณ์ของนายพาวเวลล์ ประธาน Fed ต่อสภาคองเกรส เมื่อวันที่ 11-12 ก.พ. ต่อสว. และสส. ตามลำดับที่ส่งสัญญาณว่า Fed จะยังไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำและตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2% พร้อมจะทบทวนนโยบาย Debanking และแก้เรื่องงบขาดดุล
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีแรงสนับสนุนจาก 1) ถ้อยแถลงของนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่กล่าวว่า ทำเนียบขาวกำลังพิจารณาการยกเว้นภาษีซ้ำซ้อน และ 2) แรงซื้อหุ้น Tesla เพิ่มขึ้น 2.4%, Apple เพิ่มขื้น 1.8%, CVS Health เพิ่มขึ้น 14.9%, Palantir เพิ่มขึ้น 4.2%
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นภูมิภาคอย่างดัชนี STOXX600 และ FTSE100 ยังคง Outperform ปิดทำนิวไฮต่อเนื่อง ขานรับรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/67 แข็งแกร่ง Heineken เพิ่มขึ้น 14.4%, ABN Amro เพิ่มขึ้น 8.2% และ แนวโน้มเงินยูโร/ปอนด์ อ่อนค่าที่จะสนับสนุนธุรกิจภาคส่งออก
โดยวันนี้ ติดตามรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/67 ของอังกฤษ / จำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ / ดัชนี PPI สหรัฐเดือนม.ค. รวมถึงจับตานโยบายการค้าสหรัฐ หลังทรัมป์ได้ลงนามเรียกเก็บภาษีจากอะลูมิเนียมนำเข้าในอัตรา 25% (vs. จากเดิม 10%) มีผลบังคับใช้ 12 มี.ค. และมีรายงานว่าทรัมป์เตรียมสรุปแผนการใช้ Reciprocal Tariffs ภายในสัปดาห์นี้
ในส่วนของราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 2.7% หลัง EIA รายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล กอปรกับมีรายงานว่าปธน. ทรัมป์ เตรียมเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนหลังการต่อสายพูดคุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน ปธน. รัสเซีย ส่งผลให้ตลาดคลายความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัว
ทั้งนี้คาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวนบริเวณ 1,265-1,290 จุด แม้จะเผชิญแรงกดดันจากตัวเลข CPI สหรัฐที่สูงกว่าตลาดคาด สนับสนุนให้มีแนวโน้มลดลงที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่เราเชื่อว่าตลาดจะยังมีแรงสนับสนุนจากปัจจัยในประเทศหลังที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบอนุมัติซอฟต์โลนธนาคารออมสิน 5 หมื่นลบ. เพื่อช่วยบรรเทาหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยในกลุ่ม Non-banks ผ่านโครงการ “คุณสู้-เราช่วย” ใน 2 รูปแบบ: 1) ยกเว้นดอกเบี้ย 3 ปี ซึ่งเราคาดว่าจะได้รับความสนใจน้อย และ 2) ตัดหนี้ สำหรับยอดหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท โดยให้ชำระเพียง 10% ของยอดหนี้ เปิดลงทะเบียนถึง 30 เม.ย. ซึ่งเราคาดว่าผลกระทบต่อหุ้นกลุ่ม Non-banks ไม่มากนัก เนื่องจากมีข้อกำหนดที่เข้มงวดและยังคงคำแนะนำ Neutral ในหุ้นกลุ่มนี้
สำหรับหุ้นแนะนำ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เป็นหนึ่งในผู้รับประโยชน์หลักจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต, มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ของผู้มีรายได้น้อยและการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ทั้งนี้ MTC มีผลคะแนน SET ESG Rating อยู่ในระดับ AAA ในปี 2567 (Take profit ที่ 45.50 บาท ส่วนจุด Stop loss ที่ 43.00 บาท)
บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA คาดว่าจะได้ประโยชน์จาก FDI ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การค้าโลกเริ่มตึงเครียด โดย AMATA เป็น Top pick ของเราในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและมีผลคะแนน SET ESG Rating อยู่ในระดับ AAA ในปี 2567 (Take profit ที่ 25.50 บาท ส่วนจุด Stop loss ที่ 23.80 บาท)