NCH บวก 3% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 2 พันล้าน จ่อเปิด 5 โครงการใหม่-ลงทุนธุรกิจโรงพยาบาล

NCH วิ่ง 3% วางเป้ารายได้ปี 68 เติบโต 2,000 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกกว่า 300 ล้านบาท เตรียมเปิดใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนธุรกิจโรงพยาบาล ชัดเจนภายในปีนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ.68) ราคาหุ้น บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH ณ เวลา 10:59 น. อยู่ที่ระดับ 0.70 บาท บวก0.02 บาท หรือ 2.94% สูงสุดที่ระดับ 0.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.68 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.06 ล้านบาท

ด้านนายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ NCH เปิดเผยว่า บริษัทยังคงสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตที่ระดับ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่องในปี 2568 ซึ่งล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 300 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2568 บริษัทวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนที่มียอดขาย 3,200 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้แล้วประมาณ 300 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินสำหรับการพัฒนาครบแล้วทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัวดีขึ้น  บริษัทจะมีการพิจารณาเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มจากแผนเดิม

ทั้งนี้หากรวมกับโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการขายที่มีอยู่ในปัจจุบันที่มีจำนวน 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,500 ล้านบาท จะส่งผลให้บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการรวม 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 15,500 ล้านบาท ซึ่งในปี 2567 บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท ต่ำกว่าแผนที่วางไว้จะเปิดตัว 5 โครงการ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการเปิดตัวโครงการใหม่ บริษัทจึงตัดสินใจชะลอตัว

โดยในปี 2568 บริษัทให้ความสำคัญกับกลยุทธ์หลักใน 3 เมกะเทรนด์ ได้แก่  1.กลยุทธ์ด้าน Green Product พัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด “Green & Well Living”, 2.กลยุทธ์ Green Service ให้ความสำคัญ Customer Centric ผ่าน New Product New Design มีการพัฒนาจากความต้องการของผู้ซื้อบ้านอย่างตรงใจ ด้วย Multi Function ผนวกการดูแล Residents Centric เพื่อส่งเสริมการอยู่อาศัยในต้นแบบชุมชน

3.กลยุทธ์ Green Finance ยกระดับสร้างประสบการณ์ Customer Experience ที่เหนือกว่า จากพันธมิตรที่ดี มีการ Collaboration ร่วมกับสถาบันการเงิน เพื่อให้สิ่งพิเศษกับลูกค้า ด้วยการดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบด้วยเงื่อนไขที่ดี สำหรับการซื้อบ้าน พร้อมข้อมูลที่เอื้อประโยชน์สูงสุดให้กับผู้ซื้อบ้านผ่าน Touch Point ด้วยนวัตกรรมการบริการ ตอบรับทุกความต้องการ ได้อย่างตรงใจผู้ซื้อบ้าน สูงสุด ลูกค้าพึงพอใจ ถือเป็นการเพิ่มความรู้การซื้อบ้าน ที่มาพร้อมโซลูชั่นการบริการที่เหนือกว่า

นายสมนึก กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน อาจจะเห็นความชัดเจนของรูปแบบการลงทุนได้ภายในปี 2568 นอกจากนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรุปผลการดำเนินงานปี 2567 จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติงบดังกล่าวประมาณหลังวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้

Back to top button